เผยกรมธนารักษ์ไม่สามารถส่งมอบพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสะเดาเนื้อที่ 1,200 ไร่ บ้านด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา ให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เข้าไปพัฒนานิคมอุตสาหกรรมได้ เนื่องจากมีประชาชนอาศัยอยู่ไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่ อาจส่งผลกระทบแผนพัฒนาล่าช้าออกไปอย่างน้อย 6 เดือน หรือ 1 ปี ล่าสุดจังหวัดสงขลาได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อเคลียร์ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ (ที่มาภาพ: Google Maps)
16 มี.ค. 2559 เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ รายงานว่าหลังจากที่กรมธนารักษ์ไม่สามารถส่งมอบพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสะเดา เนื้อที่ 1,200 ไร่ บ้านด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา ให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เข้าไปพัฒนานิคมอุตสาหกรรมได้ เนื่องจากมีประชาชนอาศัยอยู่ไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่ และอาจส่งผลกระทบแผนพัฒนาล่าช้าออกไปอย่างน้อย 6 เดือน หรือ 1 ปี ล่าสุดจังหวัดสงขลาได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อเคลียร์ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่
นายอนุชิต ตระกูลมุทุตา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่า ตอนนี้ต้องรอให้คณะทำงานลงไปทำความเข้าใจก่อน ถ้ายังมีปัญหาก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไปเพราะผิดกฎหมาย โดยมีผู้บุกรุกทั้งสิ้น 239 ราย ส่วนพื้นที่บุกรุกที่แท้จริงยังไม่ทราบว่ามีจำนวนกี่ไร่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินที่ทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยึดมาแล้วส่งมอบให้กรมธนารักษ์
"ปัญหาขณะนี้คือ ทำอย่างไรที่จะเอาผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ให้ได้ก่อนที่จะให้ กนอ.เข้ามาพัฒนาพื้นที่ ซึ่งจะไม่มีการเยียวยาใด ๆ เนื่องจากเป็นเรื่องที่คณะทำงานมองว่าคนเหล่านี้เข้าไปอยู่โดยผิดกฎหมาย เพราะรู้อยู่แล้วว่าที่ดินแปลงดังกล่าวมีการครอบครอง ไม่เหมือนกับที่ดินแปลงอื่นที่ประกาศตามมาตรา 44 จึงไม่เข้าข่ายการเยียวยา"
ด้านนายสมบูรณ์ พฤษานุศักดิ์ อดีตรองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลากล่าวว่า การประกาศพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดาประมาณ 1,000 กว่าไร่ก็ผิดหวังแล้ว และจุดที่ไปประกาศพัฒนานิคมก็เป็นโซนที่มีการพัฒนาเป็นชุมชนเมืองอยู่ก่อนแล้ว
นอกจากนี้จุดประสงค์การประกาศเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาลต้องการให้เกิดการลงทุนและเกิดการจ้างงานในพื้นที่ แต่สภาพความเป็นจริงจังหวัดสงขลาประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ต้องนำเข้าแรงงานต่างด้าว ขณะที่แรงงานในพื้นที่ก็ไม่นิยมทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม อยู่บ้านกลายเป็นว่างงานแฝง ซึ่งถือว่าไม่ใช่การว่างงานเพราะมีงานให้ทำแต่แรงงานไม่ทำ
ดังนั้นเป้าหมายของรัฐบาลในการสร้างงานให้กับพื้นที่จึงไม่เกิดเพราะแรงงานในพื้นที่ไม่ทำกลายเป็นการสร้างงานให้แรงงานต่างด้าวมากกว่า เช่น แรงงานเมียนมา เนื่องจากแรงงานจากประเทศมาเลเซียจะไม่เข้ามาทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดา สงขลา เพราะค่าจ้างแรงงานในมาเลเซียสูงกว่าไทยมาก ปัจจุบันจึงมีแต่แรงงานไทยที่เดินทางเข้าไปขายแรงงานในประเทศมาเลเซีย
"รัฐบาลประกาศเขตเศรษฐกิจได้ไม่ทันไรจังหวัดระยองก็มีการประกาศเพิ่มพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอีกนับหมื่นไร่และที่สำคัญการประกาศเขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดาขึ้นมาก็เพื่อดึงนักลงทุนจากส่วนกลางมาไม่ใช่หรือ เมื่อทางโน้นเพิ่มพื้นที่เป็นหมื่นไร่แล้วเขาจะมาที่สะเดาหรือ"
นายสมบูรณ์กล่าวต่อว่า สิ่งที่อยากเสนอหากต้องการสนับสนุนจูงใจให้นักลงทุนเข้าลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดาก็คือ จะต้องก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกสงขลาแห่งที่ 2 เกิดขึ้นก่อน ซึ่งเป็นรูปแบบคล้ายกับการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และเมืองพัทยา ซึ่งก่อนที่จะเกิดนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด รัฐก็มีการลงทุนก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังขึ้นมาก่อน หลังจากนั้นก็เกิดนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดตามมา เมื่อการลงทุนเกิดขึ้น มีการจ้างงาน เงินสะพัด เกิดการใช้จ่าย ก็จะส่งผลต่อไปยังการท่องเที่ยวคือเมืองพัทยา ซึ่งสงขลาก็มีแหล่งท่องเที่ยวคล้ายพัทยาคือเมืองหาดใหญ่เป็นแหล่งบันเทิง และเมืองสงขลามีทะเล
หากจังหวัดสงขลาเดินตามโมเดลนี้การลงทุน การท่องเที่ยวก็จะเกิดขึ้นตาม เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการลงทุนรองรับ ซึ่งท่าเรือน้ำลึกสงขลาแห่งที่ 2 จะมีขนาดใหญ่ที่สามารถเทียบเท่ากับท่าเรือปีนังของมาเลเซีย และท่าเรือสิงคโปร์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ