กรมสนับสนุนบริการสุขภาพแนะการใช้พัดลมไอน้ำในที่โล่งแจ้งไม่แนะนำให้ใช้ในห้องเพราะเพิ่มความชื้นอากาศในห้องเสี่ยงเกิดโรคทางเดินหายใจโดยเฉพาะโรคปอดบวม หมั่นล้างทำความสะอาดถังน้ำ หัวฉีด และห้ามใช้น้ำคลอง น้ำบ่อ ควรใช้น้ำสะอาดที่ผ่านการฆ่าเชื้อ (ที่มาภาพ: alibaba.com)
16 พ.ค. 2559 สำนักข่าวไทย รายงานว่าอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพแนะการใช้พัดลมไอน้ำคลายร้อนนั้น ขอให้ประชาชนดูแลความสะอาดถังน้ำและหัวฉีดอย่างต่อเนื่อง ควรใช้น้ำสะอาดที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว เช่น ประปาที่ ไม่ควรใช้น้ำคลอง น้ำบ่อ ควรใช้ในที่โล่งแจ้ง อากาศถ่ายเทดี ไม่แนะนำให้ใช้ในห้อง เพราะเพิ่มความชื้นอากาศในห้อง เสี่ยงเกิดโรคทางเดินหายใจ โดยเฉพาะโรคปอดบวม ในส่วนของระบบปรับอากาศของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ขณะนี้กองวิศวกรรมทางการแพทย์ ได้ดูแลตรวจสอบควบคุมมาตรฐานต่อเนื่อง ทุกแห่งปลอดภัย
จากกรณีที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ออกหนังสือเวียน ให้งดการใช้พัดลมไอน้ำไอเย็นในหอผู้ป่วยและหน่วยงานในโรงพยาบาล เนื่องจากได้ทบทวนผลการวิจัยพบว่า ละอองน้ำที่มีการปนเปื้อนในภาชนะบรรจุน้ำภายในเครื่องที่ไม่ได้ทำความสะอาดหรือบำรุงรักษาที่เหมาะสม อาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจเรื้อรังได้ โดยเฉพาะเชื้อลีเจียนแนร์ (Legionnaires) ซึ่งอาศัยอยู่ในน้ำทนต่อสภาพอุณหภูมิที่ต่ำนั้น ความคืบหน้าในเรื่องนี้ วันนี้ ( 15 พฤษภาคม 2559) นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า การใช้พัดลมไอน้ำช่วยคลายร้อนในช่วงฤดูร้อน ประชาชนสามารถใช้ได้ ละอองไอน้ำจากพัดลมจะช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ แต่อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ใช้พัดลมชนิดนี้ในที่โล่งแจ้ง เนื่องจากระบบอากาศหมุนเวียนถ่ายเทได้ดี แต่ไม่เหมาะที่จะใช้ในช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว เนื่องจากในอากาศมีความชื้นสูงอยู่แล้ว
สำหรับการนำพัดลมไอน้ำมาใช้ในห้อง ซึ่งมีพื้นที่มิดชิด อากาศถ่ายเทไม่ดี ไม่แนะนำให้ใช้ เนื่องจากจะเป็นการเพิ่มความชื้นในห้องให้สูงขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้ที่ป่วยอยู่แล้วโดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งขณะนี้มีส่วนหนึ่งที่พักฟื้นที่บ้าน ส่วนใหญ่มักเป็นผู้สูงอายุ รวมทั้งผู้ที่เป็นโรคทางเดินหายใจอยู่แล้ว เช่นเป็นไข้หวัด อาจเสี่ยงทำให้เกิดโรคปอดบวมได้ หากจำเป็นต้องใช้พัดลม แนะนำให้ใช้พัดลมธรรมดาทั่วไป เพราะไม่เพิ่มความชื้นในห้อ “ ทั้งนี้ในการใช้พัดลมไอน้ำที่ปลอดภัย ขอแนะนำให้ประชาชนยึดหลักดังนี้ 1. ทำความสะอาดถังบรรจุน้ำ หากเป็นไปได้ควรทำทุกวัน โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อหรือใช้ผงซักฟอกทั่วไปก็ได้ และทำความสะอาดหัวฉีดไม่ให้อุดตัน หรือเป็นจุดเก็บกักเชื้อโรค 2. น้ำที่นำมาใช้กับพัดลมควรเป็นน้ำที่สะอาด ผ่านระบบการฆ่าเชื้อมาแล้ว เช่น น้ำประปา หรือน้ำดื่มบรรจุขวดทั่วไป ห้ามใช้น้ำคลอง หรือน้ำบ่อ เพราะหากมีเชื้อโรคในน้ำ จะทำให้ร่างกายสูดเอาเชื้อโรคเข้าไปด้วย โดยได้กำชับให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เร่งให้คำแนะนำประชาชนในพื้นที่ในการใช้พัดลมไอน้ำได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยแล้ว” นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรืองกล่าว
ทางด้านนายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า สบส. ได้จัดระบบดูแลความปลอดภัยของระบบปรับอากาศภายในโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกระดับอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ส่วนใหญ่ใช้เครื่องปรับอากาศ มีส่วนน้อยที่ใช้พัดลม โดยส่งเจ้าหน้าที่จากกองวิศวกรรมทางการแพทย์ตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้ป่วยและญาติที่ใช้บริการ รวมทั้งผู้ปฏิบัติงานมีความสุขสบายและปลอดภัย ที่ผ่านมาไม่พบเชื้อลีเจียนแนร์แต่อย่างใด จึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ