ปลัดอุตสาหกรรมเชื่อภาคอุตสาหกรรมของไทยยังต้องเน้นใช้แรงงานคน ระบุอีกนานกว่าจะใช้หุ่นยนต์มาทดแทน แจงการก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ต้องค่อยเป็นค่อยไป (ที่มาภาพประกอบ: japantimes.co.jp)
เว็บไซต์ moneychannel รายงานว่านายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงความกังวลกรณีที่ภาคอุตสาหกรรมจะปรับตัวนำเครื่องจักรอัตโนมัติและหุ่นยนต์มาใช้แทนแรงงานคนในประเทศจนกระทบให้คนตกงานว่า อุตสาหกรรมของไทยยังต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควรเพราะการเปลี่ยนผ่านของประเทศที่จะก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ที่เน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้นั้น จะต้องค่อยๆก้าวผ่านไปทีละขั้นตอน เนื่องจากอุตสาหกรรมของไทยส่วนใหญ่ยังอยู่ในขั้นอุตสาหกรรม 2.0 และ 3.0
ที่สำคัญคืออุตสาหกรรมหุ่นยนต์และแขนกลในประเทศไทย ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพิ่งมีการออกใบอนุญาต ร.ง.4 เพียงแค่ 2 ราย รวมเงินลงทุน 9 ล้านบาท จ้างคนงาน 186 คน เท่านั้น
ซึ่งการก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 คงจะเริ่มจากอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ก่อน เพราะมีความพร้อมด้านเงินทุน และได้ปรับเปลี่ยนไปใช้ระบบอัตโนมัติร่วมกับแรงงานคนแล้ว สำหรับอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ที่เป็นเอสเอ็มอี ได้เปลี่ยนจากที่เคยใช้แรงงานเข้มข้น มาใช้คนร่วมกับเครื่องจักรในกระบวนการผลิต ทำให้มีต้นทุนที่สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ซึ่งทั้งหมดก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปเหมือนที่หลายประเทศที่พัฒนาแล้ว
ทั้งนี้กระทรวงฯ ได้มีแผนรองรับและผลักดันภาคการผลิตไทยให้เปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยได้พิจารณาบนพื้นฐานที่ประเทศไทยและคนไทยต้องได้อะไร เช่น คนงาน ได้พัฒนาตัวเองให้มีประสิทธิภาพสูง ได้รับรายได้สูงขึ้น ภาคอุตสาหกรรม มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น สิ่งแวดล้อมและสังคม ดีขึ้นเพราะโรงงานใหม่เป็นอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และคนไทย ได้สินค้าที่ตอบสนองความต้องการของตนเอง มีความสุขและมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
ในวัน 21 ก.ค. กระทรวงอุตสาหกรรมจะจัดพิธีเปิดศูนย์ช่วยเหลือเอสเอ็มอี หรือ SMEs Rescue Center ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะเป็นการบูรณาการความร่วมมือของทุกหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับเอสเอ็มอีรวมทั้งสถาบันการเงิน โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือเอสเอ็มอีผู้ประสบปัญหาธุรกิจในทุกด้าน รวมถึงด้านการเงิน และธุรกิจที่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ