กระทรวงสาธารณสุขเผยข้อมูลปี 2555 มูลค่าการบริโภคยาของคนไทยสูงถึง 1.4 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการที่ผู้ป่วยมีการใช้ยาเกินความจำเป็นถึง 2,370 ล้านบาท และเป็นการใช้ยายังมีข้อสงสัยต่อประสิทธิภาพอีก 4,000 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายด้านยาเติบโตใกล้เคียงกับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ร้อยละ 7 - 8 ต่อปี (ที่มาภาพประกอบ: peerwell.co)
เว็บไซต์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การใช้ยาสมเหตุผลเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ที่ผ่านมา มีการดำเนินงานโดยมีการลงนามความร่วมมือพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (RDU hospital) มีโรงพยาบาลเข้าร่วมทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 203 แห่ง ส่วนปี 2559 สธ. มีนโยบายให้ทุกโรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งดำเนินการส่งเสริม “การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล” ให้จัดทำเป็นคำรับรองในการปฏิบัติงาน ตั้งแต่ระดับรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง จนถึงระดับผู้ตรวจราชการ ในปีงบประมาณ 2560 เพื่อให้นโยบายพัฒนาการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล แปลงไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผล
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน ปลัด สธ. กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบบริการให้มีการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลขึ้น และกำหนดเป็นแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service plan) สาขาที่ 15 เน้นการพัฒนาระบบ และการตระหนักรู้แก่ทุกคนที่อยู่ในวงจรการใช้ยา แสดงให้เห็นว่า การใช้ยาอย่างสมเหตุผลเป็นอย่างไร ซึ่งรายงานขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า ทั่วโลกมีการใช้ยาอย่างไม่สมเหตุผลมากกว่าร้อยละ 50 ของการใช้ยา ส่งผลให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงจากผลข้างเคียงและอันตรายจากยา รวมถึงการสิ้นเปลืองทางเศรษฐกิจ สำหรับประเทศไทย ในปี 2555 พบว่า มูลค่าการบริโภคยาของคนไทยสูงถึง 1.4 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการที่ผู้ป่วยมีการใช้ยาเกินความจำเป็นถึง 2,370 ล้านบาท และเป็นการใช้ยายังมีข้อสงสัยต่อประสิทธิภาพอีก 4,000 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายด้านยาเติบโตใกล้เคียงกับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ร้อยละ 7 - 8 ต่อปี แต่สูงกว่าอัตราการเติบโตของจีดีพี ประมาณร้อยละ 5 - 6 ต่อปี และที่สำคัญ พบว่ามีการใช้ยาอย่างไม่สมเหตุผลในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับสถานพยาบาลจนถึงชุมชน
ทั้งนี้ “โรงพยาบาลส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล” ที่เข้าร่วมโครงการข้างต้น ดำเนินการโดยยึดกุญแจสำคัญ 6 ประการ คือ P-L-E-A-S-E ประกอบด้วย 1. Pharmacy and Therapeutics Committee หรือคณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบัด มีบทบาทหลักในการกำหนดนโยบายและพัฒนาระบบการจัดการด้านยาให้เป็นไปอย่างสมเหตุผลตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก 2. Labeling and Leaflet หรือฉลากยา ที่ให้ข้อมูลอย่างเพียงพอแก่ผู้ใช้ 3. Essential tools หรือเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการใช้ยาอย่างสมเหตุผล เช่น คำแนะนำการใช้ยาในกลุ่มโรคต่าง ๆ การคัดเลือกยา 4. Awareness การสร้างความตระหนักรู้แก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย 5. Special population ว่าการใช้ยาในคนสูงอายุ เด็ก สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ผู้ป่วยโรคตับ โรคไตเรื้อรัง และผู้ป่วยกลุ่มพิเศษอื่นตามที่สถานพยาบาลกำหนด และ 6. Ethics คือ จริยธรรมในการสั่งใช้ยา
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ