กฟผ. เสนอ รมว.พลังงาน แก้ พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ.2511 เพื่อให้สอดรับ และมีความคล่องตัวในการทำงาน โดยเฉพาะในกรณีที่ให้ กฟผ.สามารถปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทลูกได้ อาทิ บริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (อีแกท ไอ) ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนในโครงการพลังงานไฟฟ้าในต่างประเทศ

หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ รายงานเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2559 ที่ผ่านมาว่านายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการกิจการสังคมการไฟฟ้า ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะโฆษก กฟผ. เปิดเผยว่า กฟผ.ได้ขอให้ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน แก้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ.2511 เพื่อให้สอดรับ และมีความคล่องตัวในการทำงาน โดยเฉพาะในกรณีที่ให้ กฟผ.สามารถปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทลูกได้ อาทิ บริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (อีแกท ไอ) ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนในโครงการพลังงานไฟฟ้าในต่างประเทศ

"อีแกท ไอ เป็นบริษัทลูกของ กฟผ. ที่ยังไม่มีรายได้ เพราะฉะนั้นการที่จะไปหาเงินกู้เองอาจจะทำได้ลำบาก ซึ่งถ้า กฟผ.เองสามารถปล่อยเงินกู้ได้ ก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สนับสนุนให้อีแกท ไอ ทำงานได้คล่องตัวขึ้นในต่างประเทศ" นายสหรัฐกล่าว

นอกจากนี้ การแก้ พ.ร.บ. เนื่องจากเมื่อมีพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเกิดขึ้น อำนาจบางส่วนที่เคยอยู่กับ กฟผ. ก็จะโดนย้ายไปยังคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กกพ.) ทำให้อาจจะติดขัด จึงอยากให้มีการปรับแก้กฎหมายเพื่อให้สอดรับกับการทำงาน โดยคาดว่าจะเร่งให้มีการดำเนินการเร็วที่สุด และเสนอต่อกระทรวงพลังงานต่อไป เพื่อให้กำหนดใช้ทันในรัฐบาลชุด คสช.

ส่วนความคืบหน้าโครงการสถานีกักเก็บและแปลงสภาพก๊าซธรรมชาติเหลวแบบลอยน้ำ (FSRU) ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมและศึกษาข้อมูล คาดภายใน ธ.ค.59 จะเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผล กระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ให้แล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค.2561