กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระบุภาพรวมการค้างาช้างลดลง แต่การค้าสัตว์ป่าชนิดอื่นเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการซื้อ - ขายนกสวยงามในบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองทางอินเทอร์เน็ตมีมากกว่า 13,000 ตัว ที่มาภาพประกอบ: StillWorksImagery (CC0)

สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รายงานเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2559 ว่านายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวในโอกาสวันคุ้มครองสัตว์ป่าวันที่ 26 ธันวาคมของทุกปี ว่าภาพรวมปัญหาการค้าสัตว์ป่าและสถิติการจับกุมคดีค้าสัตว์ป่าปีนี้ กลุ่มนกสวยงามในบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองถูกจับขายมากถึง 13,458 ตัว อาทิ นกกระติ๊ดขี้หมู 8,810 ตัว นกปรอดหัวโขน 2,970 ตัว รองลงมาเป็นกลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน 1,827 ตัว เช่น เต่าดาวรัศมี 420 ตัว งูสิง 330 ตัว เต่านา 249 ตัว เต่าดาวอินเดีย 158 ตัว กบทูด 33 ตัว ส่วนกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมครอบคลุมตัวลิ่น(นิ่ม) ลิง กระทิง เสือ สถานการณ์น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะการลักลอบขนสัตว์ป่า โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปประเทศเพื่อนบ้านเริ่มกลับมาอีก เช่น การจับตัวลิ่นหรือนิ่ม จากชายแดนไทย - มาเลเซีย จับได้มากถึง 390 ตัว เสือโคร่ง 8 ตัว ลิงกัง 21 ตัว กระรอกหลากสี 8 ตัว ที่สำคัญยังพบการลักลอบล่าสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น กระทิง ถูกชำแหละ 246 กิโลกรัม กระทิง ถูกยิงตายอย่างน้อย 3 - 4 ตัว ล่าสุดในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาแผงม้า จ.นครราชสีมา เสือโคร่ง เลียงผา กวางป่า โดยเฉพาะตัวนิ่มและกระทิง ถูกล่าเพื่อการบริโภคมากขึ้น ทั้งนี้ ภาพรวมไม่ค่อยพบการลักลอบค้างาช้างข้ามชาติ หลังไทยประกาศมาตรการและกฎหมายคุ้มครองช้างในปี 2558 แต่กลับพบว่า ปัญหาอาชญากรรมค้าสัตว์ป่าชนิดอื่นยังมีอยู่ โดยเฉพาะตัวนิ่ม ตลาดประเทศเพื่อนบ้านแถบอินโดจีน ยังบริโภคเนื้อและใช้เกล็ดตัวนิ่มไปทำยา ส่วนเสือโคร่ง จากกรณีวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน จ.กาญจนบุรี กรมอุทยานฯ ต้องเร่งเก็บดีเอ็นเอเสือจากสวนสัตว์ทั่วประเทศ คาดว่าจะมีเสือในกรงเลี้ยงอีก 1,400 ตัว เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลป้องกันการส่งออกเสือและค้าเสือระหว่างสวนสัตว์ ในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน

รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวย้ำว่า ปีนี้การค้าขายสัตว์ป่าประเภทสวยงาม สัตว์ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ มีการเปลี่ยนช่องทางการขายโดยใช้สื่ออินเทอร์โซเซียลมากขึ้น ทั้งอีเมล์ เฟสบุ๊ค และไลน์ กรมอุทยานฯ จึงร่วมกับตำรวจ บก.ปทส.ตั้งชุดสายสืบสัตว์ป่าออนไลน์ ล่าสุดจับลูกลิงอุรังอุตังอินโดนีเซีย ได้ 2 ตัว อายุ 8 - 9 เดือน จากการล่อซื้อทางวอชแอพ และเตรียมเสนอแก้กฎหมายสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 เพิ่มบทลงโทษที่รุนแรงขึ้นจากเดิมจำคุก 4 ปี ปรับ 40,000 บาท รวมทั้งให้การคุ้มครองสัตว์ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) ทุกชนิดภายใต้กฎหมายไทย เพื่อให้กรมอุทยานฯ ควบคุมและเอาผิดผู้ครอบครองการนำเข้า - ส่งออก สัตว์ต่างประเทศในบัญซีไซเตสได้ คาดว่า จะมีสัตว์กว่า 100,000 ตัว ที่ต้องตรวจสอบ หลังการปรับปรุงกฎหมายแล้วเสร็จ