ปี 2560 เริ่มปลูก 'กัญชง' เพื่ออุตสาหกรรมใน 6 จังหวัด

28 ธ.ค. 2559 | อ่านแล้ว 4652 ครั้ง

	ปี 2560 เริ่มปลูก 'กัญชง' เพื่ออุตสาหกรรมใน 6 จังหวัด

ป.ป.ส. เผย ปี 2560 เริ่มปลูกกัญชงถูกกฎหมาย อนุญาตให้ปลูกได้ตามพื้นที่ที่กำหนด 6 จังหวัด 15 อำเภอ ประกอบด้วย จ.เชียงใหม่ 4 อำเภอ คือ แม่วาง , แม่ริม,สะเมิง ,และแม่แจ่ม จ.เชียงราย 3 อำเภอ คือ เทิง, เวียงป่าเป้า , และแม่สาย จ.น่าน 3 อำเภอ คือ นาหมื่น,สันติสุข, และสองแคว จ.ตาก เฉพาะที่ อ.พบพระ จ.เพชรบูรณ์ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมือง, หล่มเก่า ,เขาค้อ และจุดสุดท้ายที่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน สายพันธุ์ที่นำมาปลูกนั้นจะต้องมีสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทที่ใบและช่อดอกหรือ THC ไม่เกิน 1% หากตรวจพบว่าแปลงใดมีต้นกัญชงที่สาร THC. เกิน 1% ผู้ปลูกจะมีความผิด ที่มาภาพประกอบ: wikipedia.org

เว็บไซต์คมชัดลึก รายงานเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2559 ว่านายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปรับนโยบายเกี่ยวกับพืชเสพติดและสารเสพติดรวม 4 ชนิด คือ กัญชง กัญชา กระท่อม และเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า เพื่อให้มีการนำมาใช้ในทางการแพทย์และอุตสาหกรรมอย่างเหมาะสม ว่า สำหรับกัญชงหรือแฮมพ์ ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้เป็นพืชเศรษฐกิจและสามารถปลูกเพื่ออุตสาหกรรมได้ โดยในปี 2560 นี้อนุญาตให้ปลูกได้ตามพื้นที่ที่กำหนด  6 จังหวัด 15 อำเภอ ประกอบด้วย จ.เชียงใหม่ 4 อำเภอ คือ แม่วาง , แม่ริม,สะเมิง ,และแม่แจ่ม จ.เชียงราย 3 อำเภอ คือ เทิง, เวียงป่าเป้า , และแม่สาย จ.น่าน 3 อำเภอ คือ นาหมื่น,สันติสุข, และสองแคว จ.ตาก เฉพาะที่ อ.พบพระ จ.เพชรบูรณ์ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมือง, หล่มเก่า ,เขาค้อ และจุดสุดท้ายที่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งสายพันธุ์ที่นำมาปลูกนั้นจะต้องมีสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทของกัญชาที่ใบและช่อดอก หรือ THC ไม่เกิน 1% หากตรวจพบว่าแปลงใดมีต้นกัญชงที่สาร THC. เกิน 1% ผู้ปลูกจะมีความผิด

นายศิรินทร์ยา กล่าวอีกว่า สำหรับเยื่อของต้นกัญชงนั้นสามารถทำมาทักถอเป็นประเป๋าหรือประดิษฐ์เป็นสิ่งของอื่นได้ ถือเป็นการสนับสนุนให้ชาวบ้านมีอาชีพด้วย โดยโรงงานยาสูบจะเป็นผู้รับซื้อผลิตภัณฑ์จากต้นกัญชงที่เกษตรกรในพื้นที่ที่ระบุไว้โดยตรง ส่วนพืชกระท่อมขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาการใช้พืชกระท่อมในวิถีชาวบ้านและการใช้กระท่อมเป็นพืชสมุนไพร ซึ่งต้องมีการแก้กฎหมายว่าสามารถนำมาใช้ในบ้าน เช่น เคี้ยวหรือต้ม ห้ามนำมาแปรรูปหรือผสมเป็น 4x100

สำหรับกัญชาซึ่งเป็นพืชเสพติดทางคณะอนุกรรมการศึกษาวิเคราะห์มาตรการทางกฎหมายในการควบคุมเมทแอมเฟตามีน ซึ่งมีนายชาญเชาว์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะที่เป็นประธานฯทำงานอยู่ระหว่างการ ศึกษาเพิ่มเติมเช่นกัน เนื่องจากยังมีความเห็นขัดแย้งโดยแพทย์มองว่าสามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้ แต่ก็มีอันตรายจากสารที่เป็นตัวอนุพันธ์ จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อจัดการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเหมาะสม และสอดรับกับกระแสโลกที่ดำดนินการปราบปรามนักค้าและแหล่งผลิต ควบคู่ไปกับการบำบัดรักษาผู้เสพ

ส่วนการปรับบัญชีแมทเอมเฟตามีนจากยาเสพติดประเภท 1 จากยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงเป็น เป็นยาเสพติดประเภท 2 เพื่อสามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในการบำบัดรักษาผู้เสพ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเช่นกัน ทั้งด้านกฎหมายและการปรับใช้เพื่อนำมาเป็นยารักษาโรค ที่ผ่านมาโทษของการค้ายาเสพติด เช่น เฮโรอีน ไอซ์ และแมทเอมเฟตามีน จะมีอัตราโทษไม่แตกต่างกัน แต่หากปรับบัญชี เมทแอมเฟตามีนจะเป็นยาที่นำมาใช้รักษาโรคทางการแพทย์ได้. ซึ่งยังต้องพิจารณารายละเอียดต่าง ๆ ให้รอบคอบ

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: