กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จังหวัดอุทัยธานีกว่า 300 คน เดินทางยื่นหนังสือศูนย์ดำรงธรรม ระบุหลังเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามที่รัฐบาลส่งเสริมให้ปลูกทดแทนการทำนา แต่กระทรวงพาณิชย์กลับสั่งให้นำเข้าข้าวสาลีจากต่างประเทศ จนทำให้โรงงานที่ผลิตอาหารสัตว์ไม่รับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรภายในประเทศหรือรับซื้อในราคาที่ถูกกว่าปกติ (ที่มาภาพข่าว: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุทัยธานี)
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุทัยธานี รายงานเมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2559 ที่ผ่านมาว่าที่จังหวัดอุทัยธานี กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จังหวัดอุทัยธานี รวมตัวกันกว่า 300 คน เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุทัยธานี ในการเรียกร้องให้แก้ปัญหาผลกระทบการนำเข้าข้าวสาลีและกากข้าวโพด เพื่อผลิตอาหารสัตว์ จนมีผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามที่รัฐบาลส่งเสริมให้ปลูกทดแทนการทำนา จึงส่งผลให้ราคาซื้อผลผลิตนั้นตกต่ำ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก ซึ่งในปีการผลิตนี้จะได้ผลิตมากกว่า 1,200 กิโลกรัมไร่ ซึ่งมากกว่าที่กรมส่งเสริมการเกษตรประเมินการไว้เกือบเท่าตัว พร้อมกับมันสำปะหลังจะมีผลผลิตมมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากพื้นที่การเกษตร ได้รับน้ำในการเพาะปลูกอย่างเพียงพอ โดยมีนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี นายภูมิบุญ แช่มช้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้ารับหนังสือร้องเรียนจากกลุ่มเกษตรกร จนเป็นที่พอใจแก่เกษตรกร
ทางด้านตัวแทนของกลุ่มเกษตร บอกว่าวันนี้มายื่นหนังสือเรียกร้องเกี่ยวกับราคาผลผลิตตกต่ำเนื่องจากกระทรวงพาณิชย์สั่งให้นำเข้าข้าวสาลีจากต่างประเทศมาก จนทำให้โรงงานที่ผลิตอาหารสัตว์ไม่รับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรภายในประเทศ หรือรับซื้อในราคาที่ถูกกว่าปกติ เบื้องต้นราคาอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 2.50-4 บาทเท่านั้น ทำให้ 1 ไร่จะได้ผลผลิตเพียง 4,000-5,000 บาท ซึ่งต้นทุนของเกษตรกรโดยใช้จริงอยู่ที่ไร่ละ 5,000-6,000 บาท ทำให้เกษตรกรอยู่ในภาวะขาดทุน ซึ่งในจังหวัดอุทัยธานี มีเกษตรกรร่วมลงชื่อได้รับความเดือดร้อนประมาณ 2,000 – 3,000 ราย จึงอยากให้ทางพาณิชย์ช่วยชะลอการนำเข้าข้าวสาลีจากต่างประเทศในเบื้องต้นก่อนเพื่อจะให้ทางโรงงานผู้ผลิตอาหารสัตว์มารับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรในราคาที่ยุติธรรม
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ