อินโดนีเซียที่มีประชากรกว่า 200 ล้านคน ที่ผ่านมามีผู้เสียภาษีเพียงครึ่งเดียวหรือราว 100 ล้านคนเท่านั้น รัฐบาลอินโดนีเซียจึงออกโครงการ "นิรโทษกรรมภาษี" (Tax Amnesty) ตั้งแต่กลางปี 2016 จนถึงปัจจุบัน พื่อจัดเก็บภาษีจากทรัพย์สินที่คนร่ำรวยนำไปซุกซ่อนไว้ในต่างประเทศ ซึ่งปรากฏว่าสามารถเรียกเก็บได้ถึงราว 33,000 ล้านดอลลาร์ แม้จะเคยถูกตำหนิจากหลายฝ่ายก็ตาม
อย่างไรก็ตามคำถามของสังคมในขณะนี้ก็คือ รัฐบาลอินโดนีเซียจะนำเงินจำนวนมากนี้ไปทำอะไร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอินโดนีเซียจึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อพิจารณาเรื่องการใช้เงินดังกล่าว และนักเศรษฐศาสตร์ก็เผยว่าเงินภาษีที่เก็บได้นี้อาจจะช่วยลดการขาดดุลงบประมาณของอินโดนีเซียได้ถึงราว 70% ขณะที่กรมสรรพากรของอินโดนีเซียให้ตัวเลขด้วยว่า ในช่วงปีที่แล้วมีผู้เสียภาษีรายใหม่เพิ่มขึ้นถึงสามล้านคน
ด้านนักวิเคราะห์ด้านภาษีของอินโดนีเซียก็ชี้ให้เห็นว่า ประโยชน์สำคัญของโครงการนิรโทษกรรมภาษีนี้ คือผู้มีทรัพย์สินในต่างประเทศซึ่งเข้าร่วมโครงการจะจ่ายภาษีในอัตราเพียงแค่ 2-10% เมื่อเทียบกับอัตรา 30% ซึ่งจัดเก็บจากบริษัทธุรกิจ หรือจากเงินได้ส่วนบุคคล
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ