รายงานที่จัดทำโดยองค์กร NGO ที่มีชื่อว่า Christian Solidarity Worldwide (CSW) ซึ่งได้ทำการเดินทางไปเก็บข้อมูลที่อินโดนีเซียในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เปิดเผยข้อมูลว่า ผู้นับถือศาสนาอิสลาม AHMADI,ชีอะห์มุสลิม คริสเตียน และศาสนิกชนกลุ่มน้อยกำลังถูกเพ่งเล็งจากกลุ่มมุสลิมสุดโต่ง หลังจากเกิดเหตุการณ์สำคัญที่ Basuki “Ahok” Tjahaja Purnama อดีตผู้ว่าเมืองจาการ์ตาซึ่งมีเชื้อชาติจีนและนับถือศาสนาคริสต์ ถูกตัดสินจำคุกจากความผิดฐานเหยียดศาสนาขั้นรุนแรง
รายงานระบุว่าคดีของ Ahok ถือเป็นการใช้กฎหมายเหยียดศาสนาที่เป็นเป้าสายตาของสาธารณะชนมากที่สุด บ่งชี้ให้เห็นถึงอิทธิพลจากอำนาจของกลุ่มอิสลามที่เคร่งครัด ทำให้คนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาอื่นกำลังถูกคุกคาม ทีผ่านมาเคยมีการนำข้อกฏหมายเหยียดศาสนามาใช้แล้ว 100 ครั้ง โดย 89 เป็นคดีที่ฟ้องในสมัยที่เป็นประชาธิปไตยแล้ว หลังยุคผู้นำเผด็จการ Suharto ในปี 1998
นอกจากนี้ ในการรายงานได้มีการสัมภาษณ์กลุ่ม Ahmadiyyas ชาวมุสลิมส่วนน้อยที่อยู่ในนิกาย Sunni ที่มีทั้งหมดประมาณ 500,000 คน โดยกลุ่มดังกล่าวให้ข้อมูลว่าถูกเพ่งเล็ง เป็นเหยื่อในความรุนแรงและการกลั่นแกล้งจากรัฐ ที่ห้ามไม่มีมีการสอนศาสนาแบบนิกายนี้ตั้งแต่ปี 2005
ขณะที่บาทหลวงคริสเตียนคนหนึ่งในเมือง Bandung ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า คริสศาสนิกชนถูกกดดันจากกลุ่มมุสลิมสุดโต่งในบางครั้ง ทำให้เกิดความกลัวไม่กล้าทำพิธี ซึ่งกลุ่มบาทหลวงในเกาะสุมาตราเหนือก็สะท้อนความรู้สึกหวาดกลัวในทำนองเดียวกัน
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Asian Correspondent, 2/8/2017
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ