สำนักงานปราบปรามยาเสพติดฟิลิปปินส์รายงานว่า ในยุครัฐบาลโรดิโก ดูเตอร์เตตั้งแต่เดือนกรกฎาคมของปีที่แล้วเป็นต้นมา การปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลฟิลิปปินส์มีประสิทธิผลเห็นได้ชัด โดยนาย Isidro Lapena ผู้อำนวยการสำนักงานปราบปราบยาเสพติดฟิลิปปินส์กล่าวในการประชุมฟอรั่มต่อต้านยาเสพติดว่า ปัญหายาเสพติดเป็น "โรคเรื้อรัง" ของสังคมฟิลิปปินส์ในปัจจุบัน โดยตั้งแต่รัฐบาลฟิลิปปินส์เริ่มปราบปรามยาเสพติดเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฟิลิปปินส์ได้สร้างผลงานปราบปรามกว่า 53,000 ครั้ง จับกุมผู้เกี่ยวข้องได้กว่า 65,000 คน ค้นเจอยาเสพติดของกลางจำนวนมาก มีผู้เสพยา 1.27 ล้านคนมอบตัวกับตำรวจ ส่งผลให้ดัชนีการก่ออาชญากรรมของสังคมฟิลิปปินส์ลดลงถึงร้อยละ 26
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมานโยบายปราบปรามยาเสพติดของดูเตอร์เตก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น Human Rights Watch, กลุ่มโรมันคาทอลิค, EU และรัฐบาลสหรัฐของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำให้ดูเตอร์เตไม่ลังเลใจที่จะดำเนินนโยบายต่อเนื่อง พร้อมกับยังให้สัญญากับตำรวจที่ร่วมการปราบปรามยาเสพติดในครั้งนี้ว่าจะละเว้นโทษให้หากถูกดำเนินคดีจากการใช้ความรุนแรงเพื่อปราบปราม
ด้านนาย Phelim Kine ผู้อำนวยการ Human Rights Watch ภาคพื้นเอเชียเผยว่า สงครามยาเสพติดของดูเตอร์เตนั้นเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง และควรหยุดสงครามนี้ทันที นอกจากนี้ Phelim Kine มองเหตุการณ์ครั้งนี้ว่าเป็น "สงครามกับคนจน" เนื่องจากมีคนจนในฟิลิปปินส์จำนวนมากถูกสังหารจากการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งการสังหารในกรณีนี้เป็นการสังหารที่เลยขอบเขตของกฏหมายไปแล้ว
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Benar News, 2/5/2017
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ