ไฟฟ้าพลังลมสะดุด ศาลปกครองสูงสุดสั่ง บ.กังหันลมผลิตไฟฟ้ายุติธุรกิจในที่ ส.ป.ก.ชัยภูมิ

กองบรรณาธิการ TCIJ 3 ก.พ. 2560 | อ่านแล้ว 9500 ครั้ง

ไฟฟ้าพลังลมสะดุด ศาลปกครองสูงสุดสั่ง บ.กังหันลมผลิตไฟฟ้ายุติธุรกิจในที่ ส.ป.ก.ชัยภูมิ

ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนตามศาลปกครองกลาง ให้บริษัทเอกชนสร้างกังหันลมผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายที่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ใหญ่สุดในอาเซียน ลงทุนแล้วกว่า 1.5 หมื่นล้าน ยุติธุรกิจในพื้นที่ ส.ป.ก. ชี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เผยถือเป็นอันสิ้นสุด หลังยื่นฟ้องมายาวนานกว่า 9 ปี จับตาเป็นบรรทัดฐานบังคับใช้ทั่วประเทศ ที่มาภาพประกอบ: maxpixel (CC0)

ASTV ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่าเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2560 ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุดได้นัดอ่านคำพิพากษา คดีคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชัยภูมิอนุญาตให้บริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด เช่าที่ดิน ส.ป.ก.เพื่อติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ หลังเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมาศาลปกครองกลางได้อ่านคำพิพากษาไปแล้ว ในครั้งนี้ทางศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองกลาง สั่งให้ยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ ส.ป.ก.ในการเข้าติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าของบริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด เพราะไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงถือเป็นอันสิ้นสุด

โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 2552 คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชัยภูมิ มีมติอนุญาตให้บริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด เช่าที่ดิน ส.ป.ก.เพื่อติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าในพื้นที่หมู่ 2 ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ จนต่อมาชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่และสมาคมนักกฎหมายพิทักษ์สิ่งแวดล้อมได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางให้ยกเลิกการเช่าพื้นที่ ส.ป.ก.ดังกล่าวที่มิชอบด้วยกฎหมายมาต่อเนื่องยาวนานกว่า 9 ปี

จนกระทั่งในปี 2559 ศาลปกครองกลางได้วินิจฉัยว่าการเช่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากการจัดที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินให้บุคคลใดใช้เพื่อกิจการอื่นนั้นจะต้องสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกับวัตถุประสงค์ของการปฏิรูปที่ดิน และเกษตรกรจะต้องได้ประโยชน์โดยตรงเท่านั้น แต่โครงการกังหันลมผลิตไฟฟ้านั้น แม้จะเป็นบริการสาธารณะให้ประโยชน์ต่อส่วนรวม แต่เป็นการผลิตไฟฟ้าเพื่อขาย (จำหน่าย) ให้อก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อันเป็นกิจการที่มีวัตถุประสงค์แสวงหากำไร ไม่ใช่กิจการที่เป็นการบริการหรือเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของเกษตรกรในท้องที่ ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ โดยตรง เพราะไฟฟ้าที่ผลิตได้จะส่งไปที่สถานีไฟฟ้าแรงสูงบำเหน็จณรงค์

ส่วนการตั้งกองทุนพัฒนาไฟฟ้าที่มีเงินทุนมาพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่และสิ่งแวดล้อมรอบโรงไฟฟ้า ไม่ได้เป็นกิจการที่ให้บริการหรือเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของเกษตรกรในด้านเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินโดยตรง จึงไม่เข้าลักษณะตามประกาศกระทรวงเกษตรฯ เรื่องกำหนดกิจการอื่นที่เป็นการสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปที่ดิน

จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม มีเงินทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท แต่ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังระบุว่า โครงการเทพสถิต วินด์ฟาร์ม เริ่มต้นจากการร่วมทุนระหว่าง บริษัท โปรเวทุม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท จีอี เอนเนอร์ยี่ จำกัด มีเป้าหมายผลิตไฟฟ้าด้วยกังหันลมใหญ่ที่สุดในอาเซียน ที่มุ่งเน้นการแสวงหากำไรและเป็นการเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ตกไปอยู่กับบริษัทเอกชนที่เข้ามาลงทุนเป็นหลัก และมีการทุ่มลงทุนไปแล้วสูงกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่ด้านชาวบ้านในพื้นที่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ หลังทราบข่าวมีคำสั่งศาลปกครองสูงสุดออกมาครั้งนี้ หลายฝ่ายที่เคยมีผลประโยชน์อยู่ห่างพื้นที่โครงการที่ไม่ได้รับผลกระทบกับโครงการโดยตรง แต่ทำการค้าขายจากการท่องเที่ยวได้ รู้สึกไม่พอใจฝนบางส่วน และในส่วนชาวบ้านที่อยู่ใกล้โครงการได้รับผลกระทบทางเสียงโดยตรงนั้น ต้องการให้มีการดำเนินการตรวจสอบในอีกหลายพื้นที่ ที่บางส่วนยังมีการนำ ที่ ส.ป.ก.ไปออกโฉนดที่ดินเพื่อหลีกเลี่ยง ทั้งที่เป็นพื้นที่อยู่กลางป่าเขาอีกจำนวนมากด้วย

ทั้งนี้ เป็นที่น่าติดตามว่า จากคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดดังกล่าวจะเป็นบรรทัดฐานที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมต้องไปยกเลิกสัญญาให้เช่าที่ดินกับบริษัทอื่นๆ ทั่วประเทศอย่างไร ซึ่งโครงการกังหันลมผลิตไฟฟ้าในประเทศไทย ส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนพื้นที่ ส.ป.ก.เช่นกัน

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: