รายงานพิเศษสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ 'เชียงใหม่-ลำพูน' ราคาลำไยที่ตกต่ำอย่างหนัก สร้างความเดือดร้อนให้ชาวสวนลำไยหลายหมื่นชีวิต รวมไปถึงผู้ค้าลำไยรายย่อย ที่หมดตัวไปหลายราย จากการที่กลุ่มทุนจีน เป็นผู้กำหนดราคารับซื้อ โดยลำไยเกรดต่ำสุดเหลือเพียงกิโลกรัมละ 1 บาท ที่มาภาพ: สำนักข่าวไทย
เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2560 สำนักข่าวไทย นำเสนอรายงานพิเศษระบุว่าชาวสวนลำไยหลายหมื่นรายทั่วภาคเหนือกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะไม่สามารถเก็บลำไยขายในราคาที่ขาดทุนได้ รวมไปถึงผู้ค้าลำไยรายย่อยที่ซื้อลำไยเหมาสวน อย่างเจ้านี้ซื้อลำไยเหมาสวนล่วงหน้าไว้ในราคา 200,000 บาท มาถึงวันนี้ขาดทุนแล้ว 100,000 บาท หลายรายถึงขั้นหมดตัว
ลำไยภาคปีนี้กว่า 370,000 ตัน เข้าสู่ตลาดลำไยสดช่อที่บริโภคสดและลำไยตะกร้าที่ส่งออกราวร้อยละ 40 ที่เหลือเป็นลำไยรูดร่วงส่งแปรรูปและอบแห้ง ซึ่งลำไยสดช่อยังพอไปได้ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 18-20 บาท อย่างสหกรณ์การเกษตรประตูป่าที่ลำพูน รับซื้อผลผลิตจากสมาชิกชาวสวนกว่า 300 ราย วันละ 20-30 ตัน แต่ลำไยที่ออกมาก รับซื้อได้รายละไม่เกิน 200 กิโลกรัม ราคามีแนวโน้มลดลงและต้องหยุดซื้อบางวัน แต่ลำไยสดช่อแบบนี้ต้องคัดเกรด ซึ่งใช้แรงงานและต้นทุนสูง ชาวสวนส่วนใหญ่จึงทำได้ยาก
ตลาดใหญ่ของลำไยจึงอยู่ที่ลำไยรูดร่วง ที่ส่งล้งและโรงงานอบแห้ง ซึ่งเจ้าใหญ่เป็นของนายทุนจีนเกือบทั้งหมด และเป็นผู้กำหนดราคารับซื้อ ลำไยเกรดใหญ่สุดเหลือ 12-13 บาท และเกรดต่ำสุดกิโลกรัมละ 1บาท ซึ่งไม่คุ้มต้นทุนของชาวสวน
ตลาดใหญ่ของลำไยจึงอยู่ที่ลำไยรูดร่วง ที่ส่งล้งและโรงงานอบแห้ง ซึ่งเจ้าใหญ่เป็นของนายทุนจีนเกือบทั้งหมด และเป็นผู้กำหนดราคารับซื้อ ลำไยเกรดใหญ่สุดเหลือ 12-13 บาท และเกรดต่ำสุดกิโลกรัมละ 1บาท ซึ่งไม่คุ้มต้นทุนของชาวสวน
หากช่วยกันลดปริมาณลำไยในตลาดให้ได้มากที่สุด ราคาน่าจะขยับขึ้น เป็นการช่วยชาวสวนอีกทางหนึ่ง ดีกว่าปล่อยให้นายทุนกดราคาไปมากกว่านี้
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ