หอการค้าไทยประเมินว่ามีเงินสะพัด 6,222 ล้านบาท ในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาปี 2560 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 7% เพราะประชาชนออกมาทำบุญมากขึ้นในรอบ 6 ปี ที่มาภาพประกอบ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

หอการค้าไทยเปิดเผยเมื่อต้นเดือน ก.ค. 2560 ว่าวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ถือเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาที่พุทธศาสนิกชนเข้าวัดทำบุญ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตเพราะถือเป็นวันทำบุญใหญ่ โดยในปี 2560 นี้ หอการค้าไทย ได้ถือโอกาสสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชน เนื่องจากเป็นช่วงรอยต่อวันหยุดยาวปลายสัปดาห์ ประกอบกับปัจจุบันประเทศเริ่มมีการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจที่มากขึ้นกว่าเดิม

สำหรับปี 2560 นี้ พบว่าจะมีประชาชนออกมาทำบุญมากขึ้นในรอบ 6 ปี ซึ่งหอการค้าไทยประเมินว่า จะมีเงินสะพัดมากถึง 6,222 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึงร้อยละ 7 และเมื่อดูจากผลสำรวจพบว่า การที่มีช่วงวันหยุดยาวส่งผลให้เกิดการกระตุ้นพฤติกรรมใช้จ่ายเงินของประชาชนเฉลี่ยแล้วคนละ 5,355 บาท โดยส่วนใหญ่ใช้จ่ายในด้านการทำบุญเข้าวัดต่าง ๆ ถึงร้อยละ 60  อาทิ ตักบาตร ถวายสังฆทาน ทำบุญ ทำทาน

แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีประเด็นเกี่ยวกับการทุจริตของวัดต่าง ๆ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นและจะออกไปทำบุญตามเดิม โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และไม่ทำให้ผลกระทบความเชื่อมั่นลดลงจากเดิมแต่อย่างใด

การจับจ่ายใช้สอยและการขยายตัวทางเศรษฐกิจนี้ที่คึกคัก ทีมงานวิจัยวิเคราะห์ว่า เป็นเพราะคนไทยชอบทำบุญโดยเฉพาะในช่วงที่เป็นวันหยุดยาว พร้อมกับใช้โอกาสนี้เพื่อทำกิจกรรมท่องเที่ยวด้วย ดังนั้นในช่วงนี้จึงเป็นการสร้างเงินหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยวอีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะทำให้สูงมากขึ้นกว่า 10,000 ล้านบาท

หอการค้าไทยยังได้วิเคราะห์ว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ประเทศไทยยังคงสามารถมีศักยภาพให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อีกถึงร้อย 3.5 เพราะด้วยปัจจัยหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นก็คือความเชื่อมั่น ที่ประชาชนยังมีต่อนโยบายต่าง ๆ ในภาพรวมของรัฐบาล โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ยังเป็นธุรกิจหลักที่เติบโตได้เป็นอย่างดีและต่อเนื่องมากที่สุด และการท่องเที่ยวในประเทศจะยิ่งทำให้การเงินไม่รั่วไหลสู่ต่างประเทศ สร้างเม็ดเงินสู่ภาคธุรกิจต่าง ๆ ได้อย่างทั่วถึงอีกด้วย