แจงราคาลำไยตกต่ำ เพราะอินโดนีเซียออกใบอนุญาตนำเข้าจากไทยช้า

กองบรรณาธิการ TCIJ 7 ส.ค. 2560 | อ่านแล้ว 2489 ครั้ง

แจงราคาลำไยตกต่ำ เพราะอินโดนีเซียออกใบอนุญาตนำเข้าจากไทยช้า

กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงปัญหาราคาลำไยตกต่ำเกิดจากประเทศอินโดนีเซียออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการนำเข้าลำไยจากไทยช้า เพิ่งออกให้เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2560 ซึ่งตามปกติจะออกให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนของทุกปี ที่มาภาพ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ รายงานเมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2560 ว่านางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงสถานการณ์การลำไย ปี 2560 มีจำนวน 971,430 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ร้อยละ 28.30 เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยและมีน้ำเพียงพอ กว่าปี2559 ที่ผ่านมา และราคาในปีที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ดี จูงใจให้เกษตรกรดูแลเอาใจใส่มากขึ้น ในจำนวนนี้เป็นผลผลิตลำไยภาคเหนือ 8 จังหวัด จำนวน 613,415 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ร้อยละ 45.47 โดยผลผลิตออกสู่ตลาดมากในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2560 ประมาณ 361,198 ตัน คิดเป็นร้อยละ 58.88 ของผลผลิตทั้งหมด และความต้องการใช้ลำไย โดยเฉลี่ย 3 ปี (2557 – 2559) ความต้องการใช้บริโภคสดในประเทศ ประมาณร้อยละ 4 ของผลผลิตทั้งหมด ส่วนใหญ่ส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ ในรูปลำไยสดและแช่แข็งร้อยละ 45.88 ลำไยอบแห้งร้อยละ 46.87 และผลไม้กระป๋องร้อยละ 1.2

ส่วนสาเหตุที่ส่งผลราคาลำไยตกต่ำ เกิดจากประเทศอินโดนีเซียออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการนำเข้าลำไยจากไทยช้า เพิ่งออกให้เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2560 ซึ่งตามปกติจะออกให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนของ ทุกปี ทำให้ผู้ประกอบการไทยเริ่มการส่งออกได้ช้า แต่ปัจจุบันสามารถส่งออกได้แล้ว นอกจากนี้ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม60 ผู้ประกอบการโรงอบแห้งลำไยส่วนใหญ่ยังไม่เปิดรับซื้อ เนื่องจากไม่มีคำสั่งซื้อจากจีน ทำให้มีการแข่งขันกันซื้อน้อยราย รวมทั้งการขาดแคลนแรงงานในการเก็บผลไม้และคัดบรรจุ

สำหรับมาตรการรองรับก่อนที่ผลผลิตลำไยจะออกสู่ตลาด คณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ได้ให้หลักการทำงานการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2560 คือ ให้จังหวัดบริหารจัดการผลไม้แบบเบ็ดเสร็จด้วยตัวเอง โดยการบริหารจัดการเชิงคุณภาพ ทำแผนบริหารจัดการผลไม้ในพื้นที่ การบริหารจัดการเชิงปริมาณ มุ่งเน้นการบริหารจัดการ โดยจัดสมดุลอุปสงค์และอุปทาน รวมทั้งจัดเตรียมเผชิญเหตุรองรับปริมาณผลผลิตในช่วงที่จะออกมาก อย่างไรก็ตามในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้ดำเนินการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนี้

ตลาดในประเทศ

1. จัดทำสัญญาข้อตกลงระหว่างห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ กับสถาบันเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชนจังหวัดลำพูน รวม 2,000 ตัน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา
2. เตรียมการกระจายผลผลิตไปยังตลาดปลายทางในจังหวัดต่าง ๆ โดยผ่านช่องทางต่าง ๆ อาทิ ตลาดสด ตลาดต้องชม ห้างสรรพสินค้า หน่วยงานราขการ
3. ประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการบริโภคผลไม้

ตลาดต่างประเทศ

ให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) สอบถามถึงข้อมูลความต้องการ ช่องทางการตลาด แนวทางจัดกิจกรรมส่งเสริม(เร่งด่วน) รวมถึงอุปสรรคต่างๆ ของผลไม้ลำไย โดย สคต. จะร่วมกับห้างโมเดิร์นเทรด/ ซุปเปอร์มาร์เก็ตและผู้นำเข้า จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายลำไยไทย โดยมีเป้าหมาย จีน ประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งประสานขอความร่วมมือสมาคม/ผู้ประกอบการสมาชิกของกรม ให้ช่วยส่งเสริมการบริโภคผลไม้ ใช้ผลไม้ลำไยเป็นของขวัญ/ของชำร่วยที่ใช้แจกตามโอกาสต่าง ๆ

ส่วนมาตรการการดำเนินการช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้เร่งระบายลำไยจากแหล่งผลิตจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน ไปยังตลาดปลายทางโดยเร็วนับตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยผ่านช่องทางต่างๆ ประกอบด้วย ตลาดเป้าหมาย รวมทั้งสิ้น 45 แห่ง ได้แก่ ตลาดต้องชม 35 แห่ง ปริมาณ 105 ตัน และตลาดสด 10 แห่ง ปริมาณ 30 ตัน รวมเป็น 135 ตัน นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์การบริโภคผลไม้ไทย (ลำไย) เพื่อเป็นการกระตุ้นการบริโภคและช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ไทย อาทิ การจัดกิจกรรมการส่งเสริม ได้จัดงาน fruit festival ไปแล้ว 5 ครั้ง และจะจัดงานมหกรรมลำไย 108 เมนูลำไยไทย ณ 1) ห้างเซ็นทรัลพลาซ่า เวสเกต นนทบึรี 15 – 21 สิงหาคม 2) ห้างเซ็นทรัล ภูเก็ต 17 – 23 สิงหาคม และ 3) ห้างเซ็นทรัลอุดรธานี 15 – 21 สิงหาคม 2560

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการประสานงานขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้จังหวัดปลายทางประสานอำเภอทุกอำเภอช่วยรับซื้อผลผลิตลำไยภาคเหนือ อย่างน้อยอำเภอละ 1 คันรถ (ประมาณ 3 ตัน) และมอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนั้น ๆ เป็นผู้ประสานงานหลักในการรับคำสั่งซื้อและส่งมอบผลผลิตให้แต่ละอำเภอตามคำสั่งซื้อ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2560 เป็นต้นไป อีกทั้งประสานงานขอความร่วมมือกรมราชทัณฑ์ช่วยรับซื้อผลผลิตลำไยเพื่อเป็นอาหารว่างสำหรับนักโทษผู้ต้องหา, ประสานขอความร่วมมือ สถานีบริการน้ำมันปตท.ในต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคเหนือให้พื้นที่ให้เกษตรกรนำผลผลิตลำไยมาจำหน่ายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย, ประสานกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ในการจัดกระเช้าลำไยสวยงามมอบให้คณะรัฐมนตรีและแขก VIP ที่มาร่วมงาน Asean – India Expo & Forum รวมทั้งอยู่ระหว่างประสานการจัดคณะผู้บริหารระดับสูงเดินทางเยือนอินโดนีเซียเพื่อเจรจาเปิดตลาดลำไยเพิ่มเติม

ทั้งนี้ สถานการณ์ปัจจุบัน ขณะนี้ผลผลิตลำไยจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกสู่ตลาดแล้วร้อยละ 47 (จำนวน 63,030 ตัน) และจังหวัดลำพูน ออกแล้ว ร้อยละ 53 (จำนวน 67,805 ตัน) มีการกระจายลำไยสดช่อออกสู่ตลาดภายในประเทศปริมาณเพิ่มมากขึ้น ประกอบมีคำสั่งซื้อของประเทศจีน อินโดนีเซียและเวียดนามอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหน้าสวนและจุดรับซื้อมีการปรับตัวสูงขึ้นจากเดิม

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: