กฤษฎีกาตีความเดินหน้าโรงไฟฟ้าขยะชุมชนไม่ต้องรอกฏหมายลูก พ.ร.บ.รักษาความสะอาด รอเพียง มท.ฟันธงขั้นตอนดำเนินการและจะเพิ่มปริมาณรับซื้อจากเดิมเสนอ 78 เมกะวัตต์หรือไม่ ที่มาภาพประกอบ: wikimedia.org
สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2560 ว่านายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า กกพ.เตรียมเดินหน้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชนในรูปแบบ Feed-in-Tariff (FIT) 3.66 บาทต่อหน่วย แบบไม่แข่งขันราคา หลังจาก มีการสอบถามสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และมีคำตอบว่าสามารถเดินหน้าการประมูลตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศไว้ ไม่ต้องรอกฏหมายลูก ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามต้องรอความชัดเจนของกระทรวงมหาดไทย ทั้งเรื่องจะรับซื้อเพิ่มหรือไม่ เพราะดูตามศักยภาพแล้วสามารถรับซื้อได้ 130 เมกะวัตต์ ในขณะที่กระทรวงมหาดไทยส่งข้อมูลการรับซื้อก่อนหน้านี้เพียง 78 เมกะวัตต์ และแม้ โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะไม่เข้าข่าย พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 หรือ กฎหมาย PPP แต่ หลักการทั้งหมดก็อิง กฏหมาย PPP ซึ่งกระทรวงมหาดไทยก็ต้องตัดสินใจเรื่องนี้เช่นกัน ขณะที่ กกพ.ได้มอบหมายให้คณะทำงานทบทวนรายละเอียดในประกาศและหลักเกณฑ์การจัดไฟฟ้าจากขยะชุมชนใหม่ว่ามีส่วนใดที่ต้องแก้ไขหรือปรับปรุงเพิ่มเติมอย่างไร เช่น กำหนดการดำเนินโครงการ เพราะโครงการดังกล่าวล่าช้ามาประมาณ 6 เดือน แล้ว จึงต้องเลื่อนกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ออกไปจากเดิมกำหนดไว้ภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2562
นายวรวิทย์ เลิศบุษศราคาม รองผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายโรงงาน บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP เปิดเผยว่า บริษัท จะไม่เข้าร่วมประมูลโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในแบบ SPP Hybrid Firm พ.ศ. 2560 ที่มีเป้าหมายรับซื้อไม่เกิน 300 เมกะวัตต์ ในอัตรารับซื้อ FiT ที่ 3.66 บาทต่อหน่วย หลังตรวจสอบความพร้อมของสายส่งแล้วพบว่าในพื้นที่ภาคกลางไม่อยู่ในพื้นที่สระบุรี รวมถึงคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ปรับเงื่อนไขโครงการใหม่ไม่ให้ใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิงหลัก แต่สามารถใช้เชื้อเพลิงขยะRDF(Refuse Derived Fuel)เป็นเชื้อเพลิงเสริมได้ ประกอบกับต้องประมูลแข่งขันราคา FIT ที่ต้องต่ำกว่า 3.66 บาทต่อหน่วยอาจไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน โดยบริษัทจะรอเรื่องขยะชุมชนที่คาดว่าจะได้รับการคัดเลือกเพราะมีความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในหลายพื้นที่แล้ว
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ