BOI เผยปี 2559 มีคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ภาคเหนือในปี 2560 จำนวน 150 โครงการ และมีมูลค่าเงินลงทุน 18,015 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่คนไทยถือหุ้นอยู่มี 106 โครงการ ส่วนโครงการที่ต่างชาติมาลงทุนพบประเทศที่ลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ประเทศเนเธอร์แลนด์ รองลงมาเป็นประเทศสิงคโปร์ และญี่ปุ่น ตามลำดับ ที่มาภาพประกอบ: wikimedia.org
เว็บไซต์ onlinenewscm.com รายงานว่าเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2560 ที่ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 1 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ (BOI) นางอรพิน สวัสดิ์พานิช ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 1 เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนในปี 2559 ซึ่งมีการขอรับการส่งเสริมการลงทุน รวมทั้งประเทศมีจำนวน 1,546 โครงการ เงินลงทุนกว่า 584,350 ล้านบาท โดยจะเกิดผลดีทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจ รวมถึงก่อให้เกิดการจ้างงานที่มากขึ้นสูงถึง 106,000 คน ส่วนคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ภาคเหนือ (17 จังหวัด) ในปีที่ผ่านมามีจำนวน 150 โครงการ และมีมูลค่าเงินลงทุน 18,015 ล้านบาท ทั้งนี้ BOI มีนโยบายให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมที่มีนวัตกรรมและใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ได้แก่ กิจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เงินลงทุน 565 ล้านบาท และในด้านมูลค่าของเงินลงทุนพบว่าอุตสาหกรรมการเกษตร มีเงินลงทุนสูงสุดถึง 5,286 ล้านบาท ซึ่งเอกชนต้องเตรียมตัวและปรับตัวให้เข้ากับหลักเกณฑ์ใหม่ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของการผลิต เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการไทยยังมีน้อย โดยสัดส่วนผู้ถือหุ้นในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่คนไทยถือหุ้นอยู่ มีจำนวนกว่า 106 โครงการ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 71 ของจำนวนโครงการที่ขอรับการส่งเสริมทั้งหมด และโครงการที่ต่างชาติมาลงทุนคิดเป็นร้อยละ 22 โดยประเทศที่ลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ประเทศเนเธอร์แลนด์ รองลงมาเป็นประเทศสิงคโปร์ และญี่ปุ่น ตามลำดับ
สำหรับในปี 2559 คำขอรับการส่งเสริมกระจุกตัวในจังหวัดเชียงใหม่มากที่สุด โดยจังหวัดเชียงใหม่มี 82 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 55 ของจำนวนโครงการทั้งหมด เงินลงทุน 2,713 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15 ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด รองลงมา คือ จังหวัดตาก โดยมีคำขอรับการส่งเสริม 23 โครงการ เงินลงทุน 3,799 ล้านบาท ทั้งนี้โครงการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ภาคเหนือมากที่สุด คือ เกษตรกรรมและผลิตผลการเกษตร ในส่วนของ BOI จะมีการดำเนินการต่าง ๆ ให้เกิดการขอรับการส่งเสริมที่ดียิ่งขึ้น โดยการพูดคุยสร้างความเข้าใจให้แก่นักลงทุนอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง รวมทั้งมีการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ในการสนับสนุนนักลงทุน เช่น มาตรการเงินทุนอุดหนุนการวิจัย และการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เป็นต้น เพื่อให้มีความพร้อมและเป็นผลดีต่อทิศทางการลงทุน
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ