ขึ้นปีที่ 3 'เกษตรแปลงใหญ่' รวมพื้นที่แล้ว 3.38 ล้านไร่ เกษตรกรเข้าร่วม 249,106 ราย

กองบรรณาธิการ TCIJ 11 ธ.ค. 2560 | อ่านแล้ว 2307 ครั้ง

ขึ้นปีที่ 3 'เกษตรแปลงใหญ่' รวมพื้นที่แล้ว 3.38 ล้านไร่ เกษตรกรเข้าร่วม 249,106 ราย

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เผยผลประเมินโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่หลังดำเนินการผ่านมา 2 ปี มีแปลงใหญ่รวมทั้งสิ้น 2,535 แปลง รวมพื้นที่ 3.38 ล้านไร่ เกษตรกรเข้าร่วม 249,106 ราย 78 รายการสินค้า ยกระดับเป็น Smart farmer จำนวน 16,716 ราย ที่มาภาพประกอบ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

เว็บไซต์สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร รายงานเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2560 ที่ผ่านมาว่านายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการตั้งแต่ปี 2559 เป็นการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานต่าง ๆ ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุนให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มบริหารจัดการการผลิต การตลาดร่วมกัน ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิต ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ต.ค. 2560) มีแปลงใหญ่รวมทั้งสิ้น 2,535 แปลง พื้นที่ 3.38 ล้านไร่ เกษตรกรเข้าร่วม 249,106 ราย จำนวน 78 สินค้า ในการนี้ สศก. ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการและผู้จัดการแปลง ในพื้นที่ 28 จังหวัด ระหว่างเดือน ส.ค. – ก.ย. 2560 จำนวน 1,848 ตัวอย่างพบว่าแปลงปี 2559 ซึ่งดำเนินการเป็นปีที่ 2 เกษตรกรมีรายได้แล้วจากกลุ่มสินค้า ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1,211 - 1,749 บาทต่อไร่

สำหรับการพัฒนาเกษตรกรพบว่ามีเกษตรกรที่ได้รับการพัฒนาให้เป็น Smart farmer จำนวน 16,716 ราย เกษตรกรได้รับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร 36,865 ราย และแปลงใหญ่ร้อยละ 73 มีการพัฒนาเกษตรกรเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้จัดการแปลง ซึ่งเกิดจากการส่งเสริมให้ความรู้จากหน่วยงานในด้านต่าง ๆ ทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนค่าปัจจัยการผลิต เช่น ค่าพันธุ์ ค่าปุ๋ย และค่าสารเคมีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสามารถพัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรที่ได้มาตรฐานเพิ่มขึ้น โดยเกษตรกรร้อยละ 95 พอใจต่อโครงการ เพราะมีการส่งเสริมและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับแปลงใหม่ที่เริ่มดำเนินการในปี 2560 (แปลงปีที่1) เริ่มเห็นผลแล้วเช่นกัน ซึ่งได้ดำเนินการส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกรด้านการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต เช่น ส่งเสริมให้รวมกลุ่มกันซื้อปัจจัยการผลิตร่วมกัน การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน การใช้พันธุ์ในอัตราที่เหมาะสม การใช้เครื่องจักรกลการเกษตร และการจัดทำปุ๋ยอินทรีย์/ชีวภาพ โดยกลุ่มสินค้า ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1,045-1,643 บาทต่อไร่ โดยเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการร้อยละ 83 มีความพึงพอใจต่อโครงการ เพราะทำให้สามารถจัดการปลูกและมีรายได้เพิ่ม รวมทั้งทำให้มีประสิทธิภาพในการรวมกลุ่มเพื่อผลิตและการตลาด

อย่างไรก็ตาม ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2561 ได้มีการกำหนดเป้าหมายแปลงใหญ่รวมจำนวน 4,195 แปลง โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการบูรณาการในแผนงานและงบประมาณอย่างเข้มข้น เน้นพัฒนาตามแปลงที่เริ่มดำเนินการ เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุด แปลงปี 2559 (แปลงปีที่ 3) เน้นพัฒนาเพื่อยกระดับความเข้มแข็ง บริหารครบวงจร แปลงปี 2560 (แปลงปีที่ 2) เน้น พัฒนาผู้จัดการแปลง ลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน สุดท้ายแปลงใหม่ปี 2561 (แปลงปีที่ 1) เน้น การรวมแปลง และจัดทำแผนรายบุคคล

ทั้งนี้ ปี 2561 กำหนดให้เป็นปีแห่งการยกระดับคน การบริหารจัดการ มาตรฐานสินค้าเกษตร สู่เกษตร 4.0 การดำเนินงานระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ดังกล่าว มุ่งเน้นให้มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ หรือเกษตรแม่นยำ (Precision Farming) และเครื่องจักรกลทางการเกษตรมาใช้บริหารจัดการ การน้อมนำศาสตร์พระราชา ทฤษฎีใหม่ สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เกษตรกร ซึ่งการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติงานในปี 2561 จะเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาการเกษตรเร่งเครื่องสู่เกษตร 4.0 อย่างต่อเนื่องในปี 2560-2564 ตามแผนขับเคลื่อน Smart Agricultural Curve เกษตรกรนำเทคโนโลยีนวัตกรรม สอดคล้องกับยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์ ระยะ 20 ปี พ.ศ. 2560-2579) และแผนพัฒนาการเกษตร ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2560-2564) เพื่อมุ่งเป้าหมายเพิ่มรายได้ของเกษตรกรถึง 390,000 บาท/คน/ปี เป็น Smart Farmer และ GDP ภาคเกษตรต้องเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 3% ต่อปี ตาม Roadmap ที่กำหนดไว้ซึ่งการดำเนินงานกับภาคส่วนแบบประชารัฐที่จะทำให้ภาคเกษตรไทยเกิดการพัฒนาไปสู่เป้าหมายสุดท้าย คือ เกษตรกรมั่นคง ภาคเกษตรมั่งคั่ง และทรัพยากรการเกษตรยั่งยืน ในปี 2579

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: