กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (United Nations Population Fund: UNFPA) เผยรายงานพบว่าชาวพม่าราว 13.5 ล้านคน หรือ 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมดในประเทศ อาศัยอยู่ในบ้านที่สร้างจากวัสดุที่มีคุณภาพต่ำ ซึ่งสามารถเสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็ว เช่น ไม้ไผ่ ไม้ และใบไม้แห้ง นอกจากนี้ ข้อมูลของการทำสำมะโนประชากรในพม่ายังพบว่า ประชากรราว 3.8 ล้านคน จำเป็นต้องมีบ้านใหม่หรือได้รับการปรับปรุงบ้านเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน
Janet Jackson ผู้แทน UNFPA ประจำประเทศพม่าเผยว่า หากปราศจากบ้านที่แข็งแรงทนทาน ประชาชนจะเผชิญกับการไร้ที่อยู่อาศัย และได้รับบาดเจ็บระหว่างเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ และจะมีผู้เสียชีวิตตามมาอีกจำนวนมาก
ที่ผ่านมาชาวพม่าจำนวนมากอาศัยอยู่ในบ้านลักษณะดังกล่าว ที่มีความเสี่ยงมากขึ้นจากการใช้เทียนไข น้ำมันก๊าซ เพื่อให้แสงสว่างและปรุงอาหาร ที่ยังส่งผลกระทบกับคุณภาพอากาศและสุขภาพของประชาชน ประกอบกับการที่พม่ามีแนวโน้มที่จะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติอยู่บ่อยครั้ง เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว และภัยแล้ง
นอกจากนี้รายงานชิ้นดังกล่าวยังพบข้อมูลเกี่ยวกับที่พักอาศัยยังว่า ประชากรราว 16 ล้านคนในพม่าไม่มีน้ำดื่มสะอาด และราว 13 ล้านคน ไม่มีห้องน้ำหรือสุขนามัยที่ถูกต้อง โดยส่วนใหญ่เป็นประชากรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท
ที่มาภาพประกอบ: amanderson2 (CC0 Public Domain)
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ