ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ ยื่นหนังสือถึงสภาคองเกรสขอขยายการบังคับใช้กฎอัยการศึกทั่วเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของประเทศ นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 ต่อไปอีกจนถึงสิ้นปี 2561 โดยอ้างว่ายังจำเป็นต่อการปราบปรามแนวร่วมกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) และกบฏคอมมิวนิสต์ และคาดว่าจะได้รับความเห็นชอบจากสภาภายในสัปดาห์นี้ ยิ่งเสริมความหวั่นวิตกของฝ่ายที่วิจารณ์ผู้นำวัย 72 ปีรายนี้ว่ากำลังนำพาฟิลิปปินส์กลับสู่ยุคเผด็จการ
ที่ผ่านมาดูเตอร์เตเริ่มประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วเกาะมินดาเนา ซึ่งมีประชากรราว 20 ล้านคน เมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้ เพื่อปราบปรามแนวร่วม IS หลายร้อยคนที่บุกยึดเมืองมาราวี หลังพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามตั้งฐานของ IS ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกองทัพฟิลิปปินส์ ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาให้การสนับสนุน ใช้เวลาถึง 5 เดือนจึงสามารถจัดการ IS ในเมืองมาราวีได้ การสู้รบทำให้ล้มตายมากกว่า 1,000 คน พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองกลายเป็นซากปรักหักพัง
อย่างไรก็ตาม เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ดูเตอร์เตประกาศว่า มาราวีได้รับปลดปล่อยแล้ว หลังจากแกนนำส่วนใหญ่ของ ซึ่งรวมถึงผู้นำ IS ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถูกสังหารแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่กลับเตือนว่า ยังมีกลุ่มที่หลบหนีไปได้ และกำลังรวมกลุ่มกันใหม่และกะเกณฑ์ไพร่พลอยู่บนเกาะมินดาเนา กฎอัยการศึกจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะยับยั้งพวกผู้สนับสนุน IS ในเมืองมาราวี และดูเตอร์เตยังเตือนด้วยว่า กบฏคอมมิวนิสต์ซึ่งต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐมานานหลายสิบปี ต้องการโค่นรัฐบาลเช่นเดียวกัน
กฎอัยการศึกที่ประกาศใช้ครั้งแรกนั้นมีผลบังคับใช้เพียง 60 วันเท่าที่รัฐธรรมนูญจำกัดไว้ แต่สภาผู้แทนราษฎรซึ่งเสียงส่วนใหญ่สนับสนุนประธานาธิบดี ลงมติเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ให้ขยายเวลาไปถึงสิ้นปีนี้ และกำลังจะถูกขยายไปอีกหนึ่งปี หากสภาเห็นชอบอีกครั้ง
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Philstar, 12/12/2017
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ