หลังกองทัพบกลงนามต่อสัญญาประกันชีวิตทหารร่วมกับ 'บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)' ต่อเนื่องเป็นปีที่ 31 พบบริษัทฯ จ่ายสินไหมทดแทนแก่ทหารที่ทุพพลภาพและเสียชีวิตรวมกว่า 16,000 นาย มูลค่า 1,011,000,000 บาท และคืนเงินส่วนเกินแก่กองทัพบกเพื่อเป็นสวัสดิการแล้วจำนวนทั้งสิ้น 23,770,000 บาท ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์พบปี 2559 บริษัทฯ รายได้รวม 1,357.76 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2560 นายไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผ่านสื่อ [1] ว่าเพื่อมอบสวัสดิการเพิ่มเติม อันเป็นการสร้างหลักประกันชีวิตที่มั่นคง ให้กับกำลังพลของกองทัพบกและครอบครัว รวมถึงตอบแทนความเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประเทศ กองทัพบกจึงร่วมกับบริษัทฯ ลงนามต่อสัญญาประกันชีวิตทหารต่อเนื่องเป็นปีที่ 31 โดยให้ความคุ้มครองกำลังพลทุกระดับชั้น ทั้งในยามสงบและยามสถานการณ์ปกติ ระยะเวลาความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2560 – 31 มีนาคม 2561
บริษัทฯ ได้พัฒนากรมธรรม์ 3 แบบ ประกอบด้วย กรมธรรม์แบบภัยสงคราม ให้ความคุ้มครองกำลังพลที่ออกปฏิบัติหน้าที่ภาคสนามที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งในและนอกประเทศ ทั้งกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพจนถูกปลดประจำการ สำหรับนายทหารชั้นสัญญาบัตร, นายทหารชั้นประทวน, พลทหารประจำการ, พลทหารกองประจำการ, พลอาสาพิเศษอาสาสมัครทหารพราน, อาสาสมัครทหารพราน, ลูกจ้างประจำ, ลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานราชการ กรมธรรม์แบบพิทักษ์พล ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ สำหรับนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ, นักเรียนแพทย์ทหาร, นักเรียนพยาบาลกองทัพบก, นักเรียนนายสิบ, นักเรียนดุริยางค์ทหารบก, นักเรียนผู้ช่วยพยาบาลทหารบก และพลทหารกองประจำการ และกรมธรรม์แบบพิทักษ์พลพิเศษ ให้ความคุ้มครองข้าราชการและลูกจ้างที่ปฏิบัติหน้าที่ในยามปกติ ได้แก่ ข้าราชการชั้นสัญญาบัตร, ลูกจ้างประจำชั้นสัญญาบัตร, ข้าราชการชั้นประทวน ลูกจ้างประจำต่ำกว่าสัญญาบัตร, พลอาสาสมัคร, พลอาสาพิเศษ, อส.ทพ., อส.ทพ., ลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานราชการ รวมถึงคุ้มครองกรณีปฏิบัติภารกิจการใช้อากาศยาน จะได้รับความคุ้มครองเป็น 2 เท่า
ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทฯ ยังได้ขยายความคุ้มครองสำหรับกำลังพลของกองทัพอากาศ โดยให้ความคุ้มครองแก่นักบินและกำลังพลที่อยู่ในแผนป้องกันประเทศ หรือเป็นผู้ได้รับเงินค่าฝ่าอันตราย กำลังพลที่สนับสนุนการปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงกำลังพลที่อยู่ตามพื้นที่เสี่ยงภัยอื่น ๆ และขยายความคุ้มครองกำลังพลของกองทัพเรือ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนใต้ จังหวัดจันทบุรีและตราด และหน่วยเฉพาะกิจที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพื้นที่ชายแดน รวมถึงกำลังพลของกองบัญชาการกองทัพไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนใต้ และกำลังพลของหน่วยงานสังกัดกระทรวงกลาโหม
"ไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกที่รับประกันชีวิตทหาร โดยมิได้แสวงหากำไร เนื่องจากหากปีใดมีการจ่ายสินไหมทดแทนต่ำกว่าเบี้ยประกันรับ บริษัทฯ จะคืนเงินส่วนเกินแก่กองทัพบกเพื่อนำไปใช้เป็นสวัสดิการต่อไป ซึ่งการรับประกันชีวิตทหาร ถือเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมที่อยู่ในกระบวนการดำเนินธุรกิจ หรือ CSR in Process ของบริษัทฯ สอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทฯ ในการเป็นองค์กรที่ดีของสังคมไทย" นายไชยกล่าว
โดยตั้งแต่รับประกันชีวิตทหารจนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ จ่ายสินไหมทดแทนแก่ทหารที่ทุพพลภาพและเสียชีวิตรวมกว่า 16,000 นาย คิดเป็นเงินสินไหมทดแทนรวมกว่า 1,011,000,000 บาท และคืนเงินส่วนเกินแก่กองทัพบกเพื่อเป็นสวัสดิการแล้วจำนวนทั้งสิ้น 23,770,000 บาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสนับสนุนภารกิจของทหารในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ อาทิ การมอบอาหารและน้ำดื่มช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ช่วงต้นปีที่ผ่านมา รวมถึงการส่งมอบผ้าห่มกันหนาวผ่านกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ในกิจกรรม "ปันไออุ่น ต้านภัยหนาว" เพื่อบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนรวมถึงสนับสนุนกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อกองทัพบก อาทิ สนับสนุนสโมสรฟุตบอลอาร์มี่ ยูไนเต็ด สนับสนุนกิจกรรมวิ่งการกุศล "Run Hero Run ฉันจะวิ่งเพื่อเธอ" เพื่อรณรงค์จัดหารายได้ในการซื้อเสื้อเกราะสำหรับทหารชายแดนภาคใต้ใช้ในการปฏิบัติภารกิจ เป็นต้น
เกี่ยวกับบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
ข้อมูลจากบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ระบุว่าบริษัทก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2485 ภายใต้ชื่อ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด นับเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกของคนไทย ที่มุ่งสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้กับครอบครัวคนไทย โดยมีคณะกรรมการดังนี้ 1. พระยาชัยสุรินทร์ (ตาล บุนนาค) 2. นายบุญล้อม พึ่งสุนทร 3. นายปพาฬ บุญ-หลง 4. นายหลุย พนมยงค์ 5. นายวิจิตร์ ลุลิตานนท์ 6. นายโล่เต็กชวน บูลสุข 7. นายตันจินเก่ง 8. นายเชวง เคียงศิริ 9. นายตันเกียกปุ้น ต่อมาบริษัทฯ ได้รับหนังสืออนุญาตจากกระทรวงคลังให้ประกอบธุรกิจประกันภัย แล้วก็ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารชุดแรกเพื่อดำเนินธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วย 1. เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ (จิตร ณ สงขลา) ประธานกรรมการ 2. พระยาชัยสุรินทร์ กรรมการ 3. นายหลุย พนมยงค์ กรรมการ 4. นายบุญล้อม พึ่งสุนทร5. นายปพาฬ บุญ-หลง กรรมการ 6. นายวิจิตร์ ลุลิตานนท์ กรรมการ 7. นายเชวง เคียงศิริ กรรมการ กรรมการ 8. นายโล่เต็กชวน บูลสุข กรรมการ
บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เริ่มดำเนินกิจการประกันชีวิตครั้งแรกด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท และมีสำนักงานแห่งแรกตั้งอยู่เลขที่ 25 - 27 ถนนเยาวราช กรุงเทพฯ ต่อมาในปี พ.ศ. 2500 ได้ย้าย สำนักงานมาอยู่ ณ เลขที่ 624 ตึกสหธนาคาร และในปี พ.ศ. 2502 ได้ย้ายสำนักงานมาอยู่ ณ อาคาร 8 ถนนราชดำเนิน พร้อมกับได้ดำเนินกิจการเรื่อยมา จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2513 จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ อันมีนายวานิช ไชยวรรณ เป็นผู้นำเข้ามาปรับปรุงโครงสร้าง และระบบบริหารงานครั้งใหญ่ โดยมีนายอนิวรรตน์ กฤตยากีรณ เป็นกำลังสำคัญในการวางรากฐานการดำเนินงานที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้ปรับปรุงโครงสร้างระบบงาน ตลอดจนวางแผนพัฒนาจนไทยประกันชีวิตสมบูรณ์ในทุก ๆ ด้าน
ปี พ.ศ. 2526 บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจจนประสบความสำเร็จ ก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ของบริษัทประกันชีวิตคนไทย ด้วยจำนวนเบี้ยประกันรวมสูงสุด 1,339 ล้านบาท ปี พ.ศ. 2529 บริษัทฯ เป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรก ที่ได้พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์แบบออนไลน์มาใช้กับสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ ทำให้ผู้เอาประกันได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว และกำหนดให้มีเครื่องแบบพนักงานขึ้น เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะท้อนถึงเอกลักษณ์ และความเป็นหนึ่งเดียวกัน ปี พ.ศ. 2530 นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประกันชีวิต ด้วยการเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรก และแห่งเดียวในโลก ที่ได้รับประกันชีวิตทหารภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยหมู่แบบ “ภัยสงคราม” เพื่อมอบความคุ้มครองแก่ทหารของกองทัพบกที่ปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศ
ปี พ.ศ. 2532 มีผู้เอาประกันชีวิตเกิน 1,000,000 ราย เป็นปีแรก ปี พ.ศ. 2541 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระครุฑพ่าห์ ให้เป็นบริษัทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะที่ดำเนินงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มั่นคงทางการเงิน และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ปี พ.ศ. 2548 ขยายความคุ้มครองประกันชีวิตแก่กำลังพลในสังกัดกองทัพเรือที่ปฏิบัติภารกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี พ.ศ. 2552 ขยายความคุ้มครองประกันชีวิตแก่กองกำลังพล ในสังกัดกองทัพอากาศ ที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นับเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งเดียวที่รับประกันชีวิตทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ และในปี พ.ศ. 2555 แปรสภาพบริษัท จาก บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด เป็น บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และเป็นปีที่ครบรอบ 70 ปีของการดำเนินธุรกิจ
ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยระบุว่าปัจจุบัน บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) : TIC บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ที่อาคารไทยประกันภัย, 34/3 ซอยหลังสวน ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. เบอร์โทรศัพท์ 0-2613-0100 เบอร์โทรสาร 0-2253-6768 เว็บไซต์ http://www.thaiins.com อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน หมวดธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต วันที่เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ 19 ส.ค. 2519
ข้อมูลบัญชีทางการเงินที่สำคัญ (งวดงบการเงิน ณ วันที่ 31/12/2559) บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 3,025.75 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 2,422.87 ล้านบาท มีรายได้รวม 1,357.76 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 40.38 ล้านบาท
รายชื่อกรรมการล่าสุด (เข้าถึงข้อมูลออนไลน์เมื่อ 10/4/2560) มีดังต่อไปนี้ นายพิพิธ พิชัยศรทัต ประธานคณะกรรมการบริษัท, นายพิพิธ พิชัยศรทัต กรรมการอิสระ, นายพิพิธ พิชัยศรทัต กรรมการตรวจสอบ, น.ส. พณิตา ตู้จินดา ประธานคณะกรรมการบริหาร, น.ส. พณิตา ตู้จินดา กรรมการ, นายสุรัตน์ ศรีสมบุญกุล กรรมการผู้จัดการ, นายสุรัตน์ ศรีสมบุญกุล กรรมการ, นายไพสิฐ ตู้จินดา กรรมการ, นายยงยุทธ บวรวนิชยกูร กรรมการ, นายปรีชาญ อินทรไพโรจน์ กรรมการ นายชัชวิน เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการอิสระ, นายชัชวิน เจริญรัชต์ภาคย์ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ, นางกุณฑลา ศศะสมิต กรรมการอิสระ และนางกุณฑลา ศศะสมิต กรรมการตรวจสอบ
ข้อมูลผู้ถือหุ้นรายใหญ่คลิ๊กดูได้ที่นี่
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ