กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ปฏิเสธบุกรุกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งกว่า 10,000 ไร่ ไม่เป็นความจริง โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ระหว่างพิสูจน์สิทธิ์และปลูกฟื้นฟูป่า พร้อมเตรียมทำเอกสารส่งยูเนสโกขอขยายพื้นที่มรดกโลกทุ่งใหญ่นเรศวร ด้วยการผนึกเขตป่าแม่วงก์-คลองลาน รวมเป็นพื้นที่เดียวกัน เพื่อควบคุมการลักลอบตัดไม้กฤษณาในเขตป่า ที่มาภาพประกอบ: สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์)
สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ รายงานเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2560 ที่ผ่านมาว่านายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า กรณีมีการบุกรุกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี กว่า 10,000 ไร่ ไม่เป็นความจริง โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ระหว่างพิสูจน์สิทธิ์ตามมติคณะรัฐมนตรี 30 มิถุนายน 2541 จำนวน 207.18 ไร่ และพื้นที่ที่ยึดคืนแล้วอยู่ระหว่างขั้นตอนการปลูกฟื้นฟูป่า โดยเริ่มดำเนินการปลูกป่ามาตั้งแต่ต้นปี 2559 จนถึงปัจจุบัน จากพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) และกรมป่าไม้ รวมกว่า 1.73 ล้านไร่ โดยพื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยท่ากวยและป่าห้วยกระเวน บริเวณป่าบ้านพุบอน ม.5 ต.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี และเป็นพื้นที่โครงการปิดทองหลังพระที่ขออนุญาตใช้พื้นที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนกรณีการลักลอบตัดไม้และทำไม้กฤษณาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี เกิดมาได้ 2 เดือนแล้วและเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มขบวนการลักลอบตัดไม้กฤษณาบริเวณพื้นที่คาบเกี่ยวห้วยขาแข้งกับแม่วงก์ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดีและสืบสวนสอบสวนหากลุ่มเครือข่ายขบวนการผู้กระทำผิด ในเบื้องต้นผู้ต้องหาชาวเวียดนามให้การรับสารภาพมีกลุ่มคนไทยเป็นผู้นำทางและชี้จุดเข้าพื้นที่ตัดไม้ ถือเป็นการตัดไม้กฤษณาครั้งใหญ่ 75 ท่อน และเกิดการปะทะขึ้นครั้งแรกในพื้นที่ ซึ่งกระทบต่อระบบนิเวศทั้งระบบของป่าแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าในเขตป่าห้วยขาแข้ง โดยเฉพาะเสือโคร่ง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เข้มความเข้มงวดการออกลาดตระเวนพื้นที่เป้าหมายร่วมกับทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเครือข่ายชุมชนท้องถิ่น จัดชุดการข่าวติดตามความเคลื่อนไหวและสืบสวนในเชิงลึก และช่วยกันสอดส่องสิ่งบอกเหตุและเฝ้าระวัง
โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวย้ำว่า องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ส่งจดหมายแสดงความเป็นหวงพื้นที่ป่าห้วยขาแข้งหลังเกิดเหตุลักลอบตัดไม้และการปะทะ ทำให้กรมอุทยานฯจำเป็นต้องประกาศให้พื้นที่ห้วยขาแข้งเป็นจุดวิกฤตเพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์การลักลอบตัดไม้กฤษณาที่เฉลี่ยเกิดคดีตัดไม้กฤษณาปีละ 1-2 คดี ไม่ให้เกิดเตุการณ์บานปลายมากกว่านี้ หากไม่รีบควบคุมป้องกันอาจถูกยูเนสโกประกาศให้กลายเป็นพื้นที่สีแดงที่เสี่ยงเป็นอันตรายต่อความหลากหลายทางชีวภาพของป่าได้ในอนาคต ภาพรวมแล้วเขตป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง มีพื้นที่รวมกันกว่า 4 ล้านไร่ ทั้งนี้ กรมอุทยานฯ อยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดทำเอกสารขอขยายพื้นที่มรดกโลกทุ่งใหญ่นเรศวร ด้วยการผนึกเขตป่าแม่วงก์-คลองลานเข้ารวมเป็นพื้นที่เดียวกันส่งยูเนสโกพิจารณา
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ