กลุ่มผู้ลี้ภัยจากฟิลิปปินส์และศรีลังกา เหลือเวลาอีกเพียง 14 วัน สำหรับการยื่นอุทธรณ์ ก่อนที่อาจถูกเนรเทศออกจากฮ่องกง เนื่องจากเป็นครอบครัวผู้ลี้ภัยที่เคยให้ที่พักพิงแก่เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา ผู้ออกมาเปิดโปงโครงการลับ โดยในช่วงที่เขาต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในฮ่องกงกำลังจะเผชิญกับการถูกเนรเทศกลับบ้านเกิด หลังทางการฮ่องกงปฏิเสธคำร้องขอลี้ภัย

Robert Tibbo ทนายความของกลุ่มผู้ลี้ภัยเผยว่า แคนาดาอาจเป็นความหวังเดียวของเรา เนื่องจากขณะนี้ประเทศดังกล่าวมีนโยบายเปิดรับผู้ลี้ภัย และเนื่องจากฮ่องกงไม่ได้เป็นประเทศสมาชิกที่ลงนามในฐานะสนธิสัญญาผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ แต่ทางรัฐบาลฮ่องกงมีนโยบายเปิดรับชาวต่างชาติที่ถูกคุกคาม และรู้สึกว่าชีวิตของตนไม่ปลอดภัยเมื่ออาศัยในประเทศ ทำให้ทางการฮ่องกงจะต้องส่งต่อผู้ลี้ภัยต่อไปยังประเทศที่ 3 ภายใต้การดูแลของหน่วยงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ แต่กระบวนการดังกล่าวใช้เวลานานมาก และอาจยาวนานถึงหนึ่งปี

Vanessa Mae Rodel ผู้ลี้ภัยชาวฟิลิปปินส์ที่มีลูกสาวหนึ่งคน เผยว่า ตกใจและเศร้าเป็นอย่างยิ่ง การถูกเนรเทศของเธอหมายความว่าเธออาจต้องพรากจากลูกสาวที่เกิดและเติบโตในฮ่องกง

Vanessa Mae Rodel เดินทางจากฟิลิปปินส์ มายังฮ่องกงในปี 2010 โดยเธอเป็น 1 ในผู้ลี้ภัย 4 คนที่ให้ความช่วยเหลือแก่สโนว์เดน โดยให้ที่พักพิงแก่เขานาน 2 สัปดาห์ และในช่วงปี 2013 อีกหนึ่งบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือแก่สโนว์เดนคือ Ajith Pushpa Kumara อดีตนายทหารชาวศรีลังกาที่เดินทางมายังฮ่องกงในปี 2006 และอีกกลุ่มคือครอบครัวชาวศรีลังกาที่ประกอบด้วยพ่อ แม่ และลูกอีก 2 คน

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของผุ้ลี้ภัยทั้ง 4 คนถูกเปิดเผย หลังภาพยนตร์เรื่อง Snowden เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก เมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ทางการฮ่องกงให้เหตุผลของการปฏิเสธการขอลี้ภัยว่า ประเทศที่พวกเขาจากมานั้นขณะนี้ไม่เป็นอันตราย และสามารถเดินทางกลับไปอาศัยอยู่ได้ แม้ก่อนหน้านี้บรรดาผู้ลี้ภัยจะระบุว่า พวกเขาต้องมีชีวิตอยู่ด้วยความหวาดกลัวการถูกจับกุม หลังมีเจ้าหน้าที่จากประเทศบ้านเกิดเดินทางมายังฮ่องกงเพื่อถามหาพวกเขา ขณะนี้พวกเขามีเวลาอีก 14 วันในการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งหากล้มเหลว เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอาจกักขังพวกเขา หรือส่งกลับประเทศ

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Philstar, 16/5/2017