ผู้บัญชาการอาวุโส นาย Min Aung Hlaing ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่า ออกมากล่าวโทษชาวโรฮิงญาว่าเป็นผู้ทำให้เกิดวิกฤตครั้งล่าสุดในรัฐยะไข่ ซึ่งส่งผลให้โรฮิงญาหลายแสนคนต้องหลบหนีข้ามพรมแดนไปยังบังกลาเทศในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเผยว่าชาวโรฮิงญาไม่เคยเป็นชนกลุ่มน้อยที่ถูกกฏหมายของพม่า และทหารพม่าไม่เคยพุ่งเป้าทำร้ายพลเรือนเพื่อบีบบังคับให้ชาวโรฮิงญาหนีออกจากหมู่บ้าน พร้อมกับโยนความผิดไปที่กลุ่มติดอาวุธ The Arakan Rohingya Salvation Army (ARSA) ว่าพยายามที่จะสร้างฐานที่มั่นขึ้นในพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่
นาย Min Aung Hlaing เรียกร้องผ่านเฟซบุ๊กขอให้ประชาชนและสื่อพม่าเป็นหนึ่งเดียวกันต่อกรณีชาวโรฮิงญา โดยอธิบายว่าปฏิบัติการของทหารเริ่มขึ้นหลังจากที่กลุ่มก่อการร้ายชาวเบงกาลีได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ถึง 93 ครั้ง นับตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งความรุนแรงที่เกิดขึ้นมีเป้าหมายอยู่ที่การสร้างฐานที่มั่นในรัฐยะไข่ พร้อมกับเรียกร้องให้ได้รับการยอมรับในฐานะโรฮิงญาซึ่งไม่เคยถือเป็นชนกลุ่มน้อยในพม่า แต่ประเด็นชาวเบงกาลีเป็นเรื่องระดับชาติ และจำเป็นที่จะต้องสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อทำให้ความจริงปรากฏ
ด้านนาย Antonio Guterres เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ได้ออกมาเตือนนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของพม่าว่า ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะยับยั้งการคุกคามของทหาร ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายถึงที่สุด หลังจากที่ทางการบังกลาเทศประกาศว่าจะทำการควบคุมการเคลื่อนไหวของชาวโรฮิงญามากกว่า 400,000 คน ที่หลบหนีจากพม่าเข้ามายังบังกลาเทศ โดยทางการบังกลาเทศยังมีแผนที่จะสร้างที่พักพิงให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ด้วย
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Frontier Myanmar, 16/9/2017
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ