ตกต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี 'ลำไยนอกฤดู' เหลือกิโลกรัมละ 15 บาท

กองบรรณาธิการ TCIJ 18 พ.ย. 2560 | อ่านแล้ว 5381 ครั้ง

ตกต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี 'ลำไยนอกฤดู' เหลือกิโลกรัมละ 15 บาท

สื่อท้องถิ่นภาคเหนือ 'เชียงใหม่นิวส์' รายงานราคาลำไยนอกฤดูตกต่ำในรอบ 20 ปี เหลือเพียงกิโลกรัม 15 บาท ราคารูดจากปีก่อนหน้านี้ที่กิโลกรัมละ 44 บาท ที่มาภาพประกอบ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

เว็บไซต์เชียงใหม่นิวส์ รายงานเมื่อวันที่ 15 พ.ย.2560 ถึงกรณีราคาลำไยนอกฤดูตกต่ำในรอบ 20 ปี เหลือเพียงกิโลกรัม 15 บาทจากปีที่ผ่านมาราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 44 บาท นั้น ขณะที่ชาวสวนเก็บเกี่ยวผลผลิตนำไปขายให้ล้งรับซื้อลำไยถูกตีกลับ ต้องนำลำไยที่ถูกตีกลับไปให้วัวกินแทนหญ้า ด้านรองประธานองค์กรเครือข่ายผู้ปลูกลำไยและผลิตลำไยภาคเหนือ เผยทั้งเกษตรกรต้องพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพตามความต้องการของท้องตลาด ส่วนภาครัฐต้องให้การส่งเสริมตั้งแต่การให้ความรู้แก่เกษตรกร รวมไปจนถึงการหาตลาดเพิ่มเนื่องจากความต้องการบริโภคลำไยยังมีสูง แต่ระบบการบริหารจัดการยังไม่ดีพอ

ผู้สื่อข่าวเชียงใหม่นิวส์ได้ลงพื้นที่พบชาวสวนลำไยบ้านห้วยอ้อ ตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ได้นำลำไยที่เด็ดจากต้นลำไยในสวน มาให้ผู้สื่อข่าวดูหลังจากเริ่มเก็บเกี่ยวลำไยในสวน แล้วนำไปขายที่ล้งรับซื้อลำไย แต่ถูกตีกลับหลายตะกร้า จึงต้องให้คนงานนำมารูดขายเป็นลำไยร่วง ซึ่งจากการสอบถามนางบัวบาน เนตรแสนศักดิ์ ชาวสวนลำไย ตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซางทราบว่า ปีนี้ราคาลำไยนอกฤดู ตกต่ำเป็นอย่างมากเฉลี่ยเหลือกิโลกรัมล่ะ 15 บาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมายังอยู่ที่กิโลกรัมล่ะ 40 บาท ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้นทุนในการผลิตทั้งค่าปุ๋ย ค่าน้ำ ค่าไฟ รวมถึงค่าแรงในการเก็บเกี่ยวลำไย ก็ประมาณประมาณกิโลกรัมล่ะ 20 บาทแล้ว ซึ่งช่วงนี้ลูกลำไยเริ่มเน่าเสีย เนื่องจากคนงานขาดแคลนและเก็บเกี่ยวไม่ทัน จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลและให้ความช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีเงินไปใช้หนี้ที่กู้กับ ธกส.มาลงทุนหลายหมื่นบาท อย่างไรก็ตามชาวสวนลำไยให้ตั้งข้อสังเกตว่าการรับซื้อลำไยนอกฤดูปีนี้มีความเข้มงวดมากกว่าปรกติ หรือการเป็นการรวมหัวกันของพ่อค้าเพื่อกดราคาลำไย ซึ่งลองเปรียบเทียบขนาดของลูกลำไยในตะกร้าที่ถูกตีกลับก็มีขนาดใหญ่ เมื่อนำเหรียญ 10 บาทไปเทียบดู นอกจากนี้ช่วงนี้เริ่มเข้าฤดูหนาวความต้องการ การบริโภคลำไยจะมีสูงกว่าช่วงอื่นเนื่องจากชาวจีนมักจะนิยมบริโภคลำไยในช่วงนี้

ขณะที่นายประเทือง คงรอด รองประธานองค์กรเครือข่ายผู้ปลูกลำไยและผลิตลำไยภาคเหนือ ได้รวมรวมลำไยของตนที่ถูกล้งรับซื้อลำไยตีกลับ นำไปให้วัวที่เลี้ยงไว้กินแทนหญ้า เนื่องจากลำไยที่ถูกตีกลับเก็บข้ามคืนไปแล้วไม่มีล้งไหนรับซื้อ ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งตนส่ง 20 ตะกร้าถูกตีกลับ 7 ตะกร้าจึงตัดสินใจนำลำไยไปให้วัวกิน ซึ่งลำไยที่ทำทุกตะกร้ามีต้นทุนในการทำเฉลี่ยตะกร้าละ 5-6 บาท อย่างไรก็ตามทราบมาว่าชาวสวนลำไย ในพื้นที่ตำบลน้ำดิบที่เก็บผลผลิตลำไยส่งขายล้งรับซื้อลำไย ร้อยล่ะ 30 จะถูกตีกลับ ซึ่งปีนี้คาดการณ์ว่าผลผลิตลำไยนอกฤดูในพื้นที่จังหวัดลำพูนทั้งหมดจะมีประมาณ 2 หมื่นตันเลยทีเดียวเป็นผลมาจากราคาผลผลิตลำไยในฤดูตกต่ำชาวสวนจึงหันมาทำลำไยนอกฤดู

รองประธานองค์กรเครือข่ายผู้ปลูกลำไยและผลิตลำไยภาคเหนือ เปิดเผยว่าอนาคตชาวสวนลำไยคงจบลงแล้ว โดยตลอดระยะเวลา 50 ปีของการผลิตส่งออกลำไย เนื่องจากกลุ่มทุนชาวต่างประเทศเข้ามาฮุบระบบการผลิตลำไย ตั้งแต่การขายปุ๋ย ขายฮอร์โมน การกำหนดราคารับซื้อลำไย ที่กลุ่มทุนกุมอยู่ ขณะสาเหตุที่ทำให้ราคาลำไยนอกฤดูปีนี้ตกต่ำ สาเหตุมาจากปีนี้ ทางล้งรับซื้อลำไย ส่งตัวแทนจากจีนมาตรวจสอบคุณภาพ จึงมีความเข้มงวดอย่างมากนอกจากนี้ยังมีการรวมกลุ่มกันของพ่อค้าชาวต่างชาติเพื่อกดราคาลำไยให้ต่ำ หากเกษตรกรไม่เก็บเกี่ยวผลผลิตลำไยก็จะเน่าเสียหาย จึงเป็นโอกาสของพ่อค้า นอกจากนี้ต้องยอมรับด้วยว่าผลผลิตลำไยปีนี้ได้รับความเสียหายมากเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ดังนั้นเกษตรกรต้องพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพตามความต้องการของท้องตลาด นอกจากนี้ทั้งภาครัฐทั้งกระทรวงเกษตร ต้องให้ความรู้ส่งเสริมให้เกษตรกรให้ผลิตลำไยคุณภาพ ส่วนกระทรวงพาณิชย์ ก็ต้องหาตลาดใหม่ เพื่อส่งออกผลผลิต เนื่องจากความต้องการบริโภคลำไย ยังมีสูงจะสังเกตได้ว่าราคาลำไยอบแห้งที่ขาดตามท้องตลาดในประเทศจีนมาราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 300-400 บาท แต่ขาดการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งทางรัฐบาลควรให้เน้นให้มีการแลกเปลี่ยนสินทางกันระหว่างประเทศเช่นทุกวันนี้เรานำเข้าปุ๋ย ฮอร์โมนและวัตถุดิบในการผลิตลำไยจากประเทศจีนปีล่ะ 2 หมื่นล้านบาท แต่ภาพรวมการส่งออกลำไยของประเทศไทยมีเพียง 1 หมื่นล้านบาท

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: