สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเผย 19 ธ.ค. นี้จะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะทวงถามถึงนโยบายการเปิดนำเข้าหมูจากสหรัฐฯ และหารือแนวทางการควบคุมราคาสุกรตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางอย่างมีเหตุมีผลและเป็นธรรม พบหมูต้นทางราคาถูกมากแค่ 40 บาท แต่หมูปลายทางหรือหมูเขียงถึงผู้บริโภคมีราคาแพงจะเสนอให้ปล่อยลอยตัวราคาเหมือนน้ำตาลทราย ที่มาภาพประกอบ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ รายงานเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2560 ว่า น.สพ.วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และประธานสหกรณ์การเกษตรปศุสัตว์ราชบุรี จำกัด เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 ธ.ค. นี้ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรเข้าพบ ซึ่งในการพบครั้งนี้ กลุ่มเกษตรกร จะทวงถามถึงนโยบายการเปิดนำเข้าหมูจากสหรัฐฯ และหารือแนวทางการควบคุมราคาสุกรตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางอย่างมีเหตุมีผลและเป็นธรรม ทั้งนี้พบว่าหมูต้นทางราคาถูกมาก แต่หมูปลายทางหรือหมูเขียงถึงผู้บริโภคมีราคาแพง จะเสนอให้ปล่อยลอยตัวราคาเหมือนน้ำตาลทราย หรือ ทบทวนโครงสร้างการใช้คำนวณราคากลางใหม่ เช่น อาจใช้ราคาหมูต้นทางศูนย์ 2 และบวก 2 เป็นราคาขายปลายทาง อย่างขณะนี้ราคาหมูต้นทางกิโลกรัมละ 46 บาท คิดคำนวณตามโครงสร้างนี้ราคาจะไม่เกิน 100 บาท ไม่ใช่ขายกันราคา 130-160 บาทอย่างทุกวันนี้
“ตอนนี้ราคาหมูต้นทางตกต่ำมาก เป็นผลจากผลผลิตออกสู่ตลาดมาก สวนทางการส่งออกไปจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ลดลง และการบริโภคลดลงจากกำลังซื้อคนไทยลดลง บางพื้นที่ราคาเหลือ 40 บาทต่อกิโลกรัม ก็พยายามจะพยุงให้ไม่ต่ำกว่า 50 บาท ถึงจะเหมาะสมกับต้นทุนเลี้ยง ที่แบกรับในเรื่องอาหารสัตว์และแรงงานที่สูงขึ้น ที่ผ่านมาสหกรณ์ก็ปรับตัวโดยหาพื้นที่จำหน่ายเอง ในราคาต้นทาง สามารถระบายหมูส่วนเกินได้บางส่วน จากนี้ก็จะหารือหน่วยงานราชการและเอกชน ขอพื้นที่นำเนื้อหมูไปจำหน่ายในราคาถูกต่อไป” น.สพ.วิวัฒน์ กล่าว
สำหรับกรณีเรื่องการยื่นฟ้องศาลคุ้มครองไม่ให้เปิดเสรีนำเข้าหมูชำแหละจากสหรัฐฯ จนกระทบต่อผู้เลี้ยงและอุตสาหกรรมหมูของไทย ยังเดินหน้าพร้อมกับตรวจสอบข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้อง ถึงข้อตกลงในการเจรจาระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ว่ามีอะไรบ้าง พร้อมกันนี้กำลังตรวจสอบรายละเอียดในการยกร่าง พ.ร.บ.
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ