กระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์เผยว่าสิงคโปร์ได้เสนอให้เครื่องบินลำเลียงทางทหาร หรือโดรนสอดแนม และอุปกรณ์ในการฝึกฝน เพื่อสนับสนุนให้รัฐบาลฟิลิปปินส์สู้กับสถานการณ์ทางตอนใต้ ที่เกิดขึ้นจากกลุ่มรัฐอิสลาม (Islamic State; IS) โดยข้อเสนอดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นจากการประชุมในมะนิลาระหว่าง Ng Eng Hen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ และ Delfin Lorenzana รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของฟิลิปปินส์

ที่ผ่านมาสิงคโปร์มีความกังวลเป็นอย่างมาก กับประเด็นการโจมตีของกลุ่มรัฐอิสลาม จึงระแวดระวังเกี่ยวกับบุคคลอันตรายในภูมิภาคมาโดยตลอด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์เผยว่า ภัยคุกคามการก่อการร้ายที่มีต่อสิงคโปร์อยู่ในระดับสูงสุด ใและการเตือนภัยถูกยกระดับขึ้นในเดือนพฤษภาคมเมื่อกลุ่มติดอาวุธที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม ยึดเมืองมาราวีบนเกาะมินาดาเนาทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์เอาไว้ได้

ล่าสุดในสัปดาห์นี้ประธานาธิบดีโรดิโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์เรียกร้องให้รัฐสภาขยายกฎอัยการศึกจนถึงสิ้นปีนี้ทั่วมินดาเนา ซึ่งเป็นเกาะของชาวมุสลิมเพียงแห่งเดียวในฟิลิปปินส์ที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์นิการคาทอลิค

อย่างไรก็ตาม สองเดือนที่ผ่านมา อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ได้ร่วมกันตรวจการร่วมทางทะเลและอากาศบริเวณเขตแดนร่วมใน Sulu Sea เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธระหว่างเกาะบอร์เนียวและมินดาเนา

กระทรวงกลาโหมของสิงคโปร์จึงได้เสนอให้เครื่องบินลำเลียง C-130 เพื่อจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม โดรนสอดแนม และอุปกรณ์ในการฝึกฝนให้กับกองทัพฟิลิปปินส์ โดยมั่นใจว่า มาราวีจะปลอดภัยจากกลุ่มก่อการร้ายในเร็วๆ นี้ จำเป็นต้องมีความพยายามร่วมกันมากกว่านี้เพื่อให้แน่ใจว่า กลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ จะไม่ตั้งฐานที่มั่นของพวกเขาในตอนใต้ของฟิลิปปินส์ เนื่องจากสิ่งนี้จะทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพต่ออาเซียนส่วนที่เหลือ

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Reuters, 19/7/2017