โจโก วิโดโด หรือ Jokowi ประธานาธิบดีอินโดนีเซ๊ย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงผู้ต้องหาค้ายาเสพติดชาวไต้หวันที่ขัดขืนการจับกุมขณะพยายามลักลอบนำยาแอมเฟตามีนน้ำหนักรวม 1 ตันเข้าไปในอินโดนีเซีย โดยอ้างว่าประเทศกำลังตกอยู่ใน “สถานการณ์ฉุกเฉินด้านยาเสพติด” (narcotics emergency position)
ต่อมากระทรวงกฏหมายและสิทธิมนุษยชนของอินโดนีเซียได้ประกาศแผนการนำตัวนักโทษค้ายาเสพติดไปขังรวมกันในคุกสี่เเห่ง และผู้บัญชาการตำรวจกรุงจาการ์ต้า พลตำรวจเอก Idham Aziz ออกมาบอกว่าจะไล่ออกตำรวจทุกคนที่ไม่ปราบปรามการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง
ด้าน Phelim Kline เจ้าหน้าที่องค์การ Human Rights Watch (HRW) กล่าววิจารณ์ประธานาธิบดีอินโดนีเซียในเรื่องนี้โดยกล่าวในแถลงการณ์ขององค์การว่า ประธานาธิบดี Jokowi ควรชี้เเจงอย่างชัดเจนและอย่างเป็นทางการต่อตำรวจว่าเจ้าหน้าที่ต้องเคารพต่อสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของคนทุกคนในการจัดการปัญหายาเสพติดที่ซับซ้อน ไม่ควรมุ่งสังหารผู้ต้องหา
อย่างไรก็ตามเนื่องจากยาแอมเฟตามีนที่ตำรวจอินโดนีเซียยึดได้เมื่อเดือนที่ผ่านมาถือว่าเป็นยาล็อตใหญ่ที่สุดที่เคยยึดได้ในประเทศ และหัวหน้าสำนักงานปราบปรามยาเสพติด พลเอก Budi Waseso ได้เร่งเร้าให้อินโดนีเซียเอาอย่างฟิลิปปินส์ที่ใช้มาตรการทางอาวุธปราบปรามยาเสพติด
พลเอก BudiWaseso เผยว่าตลาดยาเสพติดที่เคยอยู่ในฟิลิปปินส์กำลังย้ายเข้ามาในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผลจากมาตราการปราบปรามตามนโยบายของประธานาธิบดีดูเตอร์เต้และทำให้มีการลักลอบยาเสพติดเข้ามาในอินโดนีเซียมากขึ้น
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: VOA, 16/8/2017
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ