คมนาคมถกอูเบอร์ได้ข้อสรุปหาแนวทางให้บริการตามกรอบกฎหมายและรูปแบบการให้บริการลักษณะ Ridesharing คาดใช้เวลาศึกษา 6 เดือนถึง 1 ปี ส่วนหยุดให้บริการ 2 ฝ่ายยังเห็นไม่ตรงกัน อูเบอร์ไม่ได้รับปากเรื่องจะยุติการให้บริการตามที่กระทรวงคมนาคมระบุแต่อย่างใด ที่มาภาพประกอบ: แฟ้มภาพ TCIJ

สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2560 ที่ผ่านมาว่านายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับนางเอมี่ กุลโรจน์ปัญญา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายรัฐสัมพันธ์สื่อสารองค์กร ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรืออูเบอร์ และตัวแทนจากมณฑลทหารบกที่ 11 (ผบ.มทบ.11. ) เพื่อแก้ไขปัญหาการให้บริการที่ผิดกฎหมาย โดยนำรถส่วนบุคคล หรือรถป้ายดำมาวิ่งให้บริการเป็นรถโดยสารสาธารณะ หรือรถป้ายเหลือง ว่า ที่ประชุมมีมติร่วมกันที่จะให้มีการศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการนำระบบบริการร่วมเดินทาง (Ridesharing) ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ของการเดินทางของอูเบอร์ที่นำเอาเทคโนโลยีมาใช้บนสมาร์ทโฟนมาให้บริการแท็กซี่ เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับระบบดังกล่าว คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาและสรุปผลได้ภายใน 6 เดือนถึง 1 ปี

ทั้งนี้ยังตอบไม่ได้ว่าผลการศึกษาจะเป็นอย่างไร หากเห็นว่าเหมาะสมอาจจะต้องจัดให้เป็นบริการรูปแบบใหม่ ซึ่งในอนาคตจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายและออกมาตรการกำกับเกี่ยวกับมาตรฐาน คนขับ ตัวรถ การทำประกันภัย รวมทั้งการเสียภาษีการทำธุรกิจให้ถูกต้อง

“ระหว่างที่กำลังศึกษาความเหมาะสมกระทรวงขอความร่วมมือให้อูเบอร์ยุติการให้บริการไปก่อน เพราะไม่งั้นจะเกิดปัญหาจับกุม ทะเลาะกัน ซึ่งตัวแทนอูเบอร์รับปากในที่ประชุมว่าจะยุติการให้บริการ” นายสมศักดิ์ กล่าว

นางเอมี่ กล่าวว่าในที่ประชุมรับปากหรือตกลงร่วมกันเฉพาะประเด็นให้มีการศึกษาความเหมาะสมร่วมกันเท่านั้นอูเบอร์ไม่ได้รับปากเรื่องจะยุติการให้บริการตามที่กระทรวงคมนาคมระบุแต่อย่างใด โดยยืนยันที่จะเดินหน้าให้บริการต่อไป เพราะบริการของอูเบอร์ไม่ได้ผิดกฎหมาย เพียงแต่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับระบบบริการร่วมเดินทางของอูเบอร์มากกว่า ขณะที่อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ มีกฎหมายรองรับและสามารถให้บริการได้ ส่วนกรณีที่เครือข่ายสมาชิกถูกทางการไล่จับและปรับนั้น ที่ผ่านมาอูเบอร์ได้ให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว

เปิดข้อมูล Uber-ทางแก้ปัญหาธุรกิจไรด์-แชริ่ง

ที่มาภาพ: สำนักข่าวไทย

สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2560 ว่า Uber บริษัทสัญชาติอเมริกัน ปัจจุบันมีบริการอยู่ 300 เมืองใน 56 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งในไทย โดยปีที่ผ่านมามีปริมาณการเรียกใช้บริการมากถึง 2 ล้านครั้งทีเดียว ไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์สคาดว่า ธุรกิจไรด์-แชริ่ง (Ride-Sharing) หรือบริการร่วมเดินทางอย่างอูเบอร์ จะสร้างมูลค่าทั่วโลกที่ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 525,000 ล้านบาท ในปี 2559 และเพิ่มเป็น 335,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 11 ล้านล้านบาท ในปี 2568 หรืออีก 8 ปีข้างหน้า

โดยอูเบอร์มีบริการหลักๆ 3 ประเภท คือ UberMOTO บริการเรียกรถมอเตอร์ไซค์, UberX บริการเรียกรถแบบธรรมดา และ UberBLACK บริการเรียกรถระดับพรีเมียม ในประเทศไทยเปิดให้บริการเป็นครั้งแรกในเดือน เม.ย.2557 ข้อมูลในปี 2558 มีปริมาณเรียกใช้อูเบอร์มากถึง 1,500,000 ครั้ง เฉลี่ยวันละราว 4,100 ครั้ง ส่วนปี 2559 มีปริมาณเรียกใช้อูเบอร์มากกว่า 2,000,000 ครั้ง หรือราววันละเกือบ 4,500 ครั้ง ทั้งนี้ อูเบอร์มีจำนวนรถและคนขับที่เป็นพาร์ทเนอร์ราว 35,000 คัน มีผู้สนใจเป็นพาร์ทเนอร์เพิ่มเฉลี่ย 1,000 คน/สัปดาห์ ผู้ขับรถอูเบอร์เคยทำรายได้สูงสุดที่เดือนละ 130,000 บาท/เดือน

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอูเบอร์กระทบต่ออุตสาหกรรมแท็กซี่ดั้งเดิมในหลายประเทศ รวมทั้งไทย ที่เจ้าของรถ หรือพาร์ทเนอร์ ใช้รถยนต์ส่วนบุคคล หรือรถป้ายดำมาใช้รับจ้างขนส่งผู้โดยสาร เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ฐานใช้รถยนต์ผิดประเภท อีกทั้งหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นผู้โดยสารจะไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย

เช่นเดียวกับหลายประเทศที่ต้องหยุดให้บริการจากปัญหาข้อกฎหมาย อาทิ ไต้หวัน และฮังการี แม้แต่ออสเตรเลียต้องแก้ปัญหาด้วยการจัดเก็บภาษีกับผู้ขับขี่อูเบอร์ ขณะที่สิงคโปร์ออกกฎหมายกำหนดให้ผู้ขับขี่อูเบอร์ ต้องยื่นขอใบประกอบการและเข้าอบรมอย่างเข้มงวดอีกด้วย