กรมส่งเสริมการเกษตรแนะนำเกษตรกรฟื้นฟูแปลงผักหลังน้ำท่วม ชี้หลังน้ำลดยังไม่สามารถปลูกผักได้ทันที ต้องฟื้นฟูดินและจัดการแปลงก่อน ที่มาภาพประกอบ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ รายงานเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2560 ที่ผ่านมาว่านายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่าเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาเกิดฝนตกในหลายพื้นที่ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ส่งผลต่อผักที่เป็นพืชที่อายุสั้น มีระบบรากตื้น หากเกิดน้ำท่วมขังเป็นเวลานานติดต่อกันหลายสัปดาห์จะทำให้สภาพพื้นที่ปลูกและโครงสร้างของดินในแปลงปลูกผักเสียหาย เมื่อน้ำลดจะยังไม่สามารถปลูกผักได้ทันที จำเป็นต้องมีการฟื้นฟูสภาพดินให้เหมาะสม และเมื่อปลูกผักในแปลงปลูกผักหลังจากน้ำลดใหม่ ๆ จำเป็นต้องมีการดูแลรักษาที่พิถีพิถันกว่าปกติ โดยในพื้นที่หลังน้ำลดระยะแรกที่ดินยังเปียกอยู่ ห้ามคนและสัตว์เลี้ยงเข้าไปเหยียบย่ำในแปลงปลูกรวมถึงห้ามนำเครื่องจักรกลเข้าไปในพื้นที่อีกด้วย ส่วนในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังอยู่ ควรหาทางระบายน้ำโดยทำการขุดร่องระบายน้ำเพื่อให้เกิดทางน้ำไหลออกจากแปลงโดยเร็ว อีกทั้งเมื่อพื้นที่เริ่มแห้งพอที่จะเข้าไปปรับสภาพดินเพื่อปลูกได้ ให้ทำการไถพรวนและตากดินไว้ 2 - 3 วัน เพื่อให้ดินแห้งมากขึ้น และควรหาปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่าคลุกเคล้ากับดินเพื่อให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การปลูกพืช อาจมีการใช้ปูนขาวหรือไดโลไมท์ในการปรับปรุงดินด้วย เพื่อป้องกันปัญหาโรครากเน่า และควรเลือกปลูกผักที่มีอายุสั้นสามารถที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อย่างรวดเร็ว เลือกพันธุ์ที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี และผักชนิดนั้นควรจะเป็นที่นิยมในการบริโภครวมถึงตรงกับความต้องการของตลาด
สำหรับการปรับปรุงดินด้วยปูนขาวในอัตราส่วน 200 - 300 กิโลกรัมต่อไร่ รวมทั้งการใช้เชื้อไตรโคเดอร์มา ใส่ลงไปในดิน จะช่วยป้องกันโรครากเน่าในผักได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสงสัยสามารถขอรับคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานเกษตรอำเภอ
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ