ปลัดกระทรวงการคลังระบุการออก พ.ร.บ.การเก็บภาษีจากผู้ประกอบการทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) ยอมรับว่ายังมีเสียงคัดค้านบางส่วนจากรายย่อย แต่ภาครัฐต้องเก็บภาษีจากการทำธุรกรรมทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ที่มาภาพประกอบ: ohpi.org.au
สำนักข่าวไทยรายงานเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2560 ที่ผ่านมาว่านายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าหลังจากกรมกรมสรรพากรเปิดเวทีรับฟังความเห็นจากประชาชน ในการออก พ.ร.บ.การเก็บภาษีจากผู้ประกอบการทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) ยอมรับว่ายังมีเสียงคัดค้านบางส่วนจากรายย่อย แต่ทิศทางกระแสโลก หรือการค้าขายในยุคนี้เปลี่ยนมาใช้ธุรกรรมเป็นออนไลน์มากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับภาครัฐเก็บภาษีจากการทำธุรกรรมทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการรายเล็ก รายใหญ่ด้วยเพราะการค้าผ่านออนไลน์ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 20-30 ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจจำนวนมากปรับกลยุทธ์ไปจับมือกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์ ยอมรับว่าขอความเห็นเรื่องการจัดเก็บภาษีมักจะมีแต่เสียงคัดค้านแต่ต้องปรับปรุงให้ถูกกลุ่มเป้าหมาย
เนื่องจากทุกประเทศทั่วโลกไม่มีประเทศใดประกาศไม่จัดเก็บภาษี (E-Commerce) และแนวคิดดังกล่าวเริ่มมาหลายสิบปีแล้ว เมื่อเทคโนโลยีได้พัฒนาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงต้องเร่งปรับปรุงแนวทางจัดเก็บภาษี ยอมรับว่าเป็นความยากลำบากในการจัดเก็บภาษีของหลายประเทศผ่านระบบออนไลน์ ขณะที่ไทยยังไม่จัดเก็บเพราะต้องการดูแลเอสเอ็มอี เพราะรัฐบาลต้องการส่งเสริมการค้าขายของรายย่อยผ่านออนไลน์ ส่วนการค้าของรายใหญ่จากต่างประเทศข้ามแดนเข้ามาขายสินค้าแล้วจัดส่งมาให้ลูกค้าในประเทศ หากต้องการจัดเก็บภาษี ต้องออกกฎหมายขึ้นมาควบคุม เพื่อปรับให้ถูกต้องและดีขึ้น ดังนั้นหากทุกขั้นตอนได้เตรียมพร้อมและได้ข้อสรุป กระทรวงคลังพร้อมเร่งนำเสนอ ครม.พิจารณา
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ