รายงานจากสำนักข่าว BBC ระบุว่าพบเหตุการณ์การปกปิดข้อเท็จจริงภายในพม่า โดยอดีตทีมงานสหประชาชาติประจำประเทศ (United Nations Country Team; UNCT) ในพม่า รู้เห็นเรื่องที่กองทัพพม่ากวาดล้างกลุ่มชาติพันธุ์ชาวโรฮิงญาตั้งแต่ 4 ปีก่อน แต่กลับไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อป้องกัน ทั้งยังกีดกันหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนที่จะเข้าไปตรวจสอบอีกด้วย

ในรายงานดังกล่าวระบุว่านางสาว Renata Lok-Dessallien ชาวแคนาดา ในตำแหน่งหัวหน้า UNCT ช่วงเวลาดังกล่าวและเพิ่งออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยแหล่งข่าวเผยว่า เกือบ 4 ปีก่อนเกิดวิกฤตปราบปรามชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่เมื่อ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่นำไปสู่การเสียชีวิตมากถึง 1,000 รายนั้น Renata Lok-Dessallien ใช้อำนาจหน้าที่พยายามยับยั้งไม่ให้นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนเดินทางไปยังรัฐยะไข่ พยายามปิดสำนักงานทนายความและสำนักงานช่วยเหลือทางกฎหมายที่ทำงานเกี่ยวข้องกับกรณีชาวโรฮิงญา และใช้นโยบายโดดเดี่ยวเจ้าหน้าที่ของ UNCT ที่พยายามเตือนว่าจะมีการกวาดล้างทางชาติพันธุ์

อย่างไรก็ตามสหประชาชาติได้ปฏิเสธข้อมูลดังกล่าว พร้อมโต้แย้งว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริง ขณะที่นาง Caroline Vandenabeele อดีตหัวหน้าหน่วยงานช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของ UN ในพม่า กล่าวว่าเคยเห็นสัญญาณเตือนในลักษณะเดียวกันนี้ เมื่อครั้งทำงานที่รวันดาซึ่งต่อมาเกิดเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งใหญ่ในปีพ.ศ. 2536 ถึง 2537 โดยเผยว่าเคยพูดถึงประเด็นชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ กับกลุ่มชาวต่างชาติที่อาศัยในพม่า และกลุ่มนักธุรกิจพม่า จู่ๆ ชาวพม่าคนหนึ่งพูดขึ้นว่าเราควรฆ่าพวกเขาเหมือนกับพวกเขาเป็นแค่สุนัข และเห็นว่าพฤติกรรมไร้ซึ่งมนุษยธรรมในระดับนี้ถือเป็นสัญญาณที่ชี้ชัดว่าสังคมพม่ายอมรับว่าการฆ่าชาวโรฮิงญาเป็นเรื่องธรรมดา

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: BBC, 29/9/2017