4 กลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี 1 มิ.ย.นี้

กองบรรณาธิการ TCIJ 29 พ.ค. 2560 | อ่านแล้ว 2876 ครั้ง

4 กลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี 1 มิ.ย.นี้

เร่งรณรงค์ 4 กลุ่มเสี่ยง ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี เริ่ม 1 มิ.ย. 2560 นี้ ลดภาวะแทรกซ้อน ป้องกันการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่ และลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล พร้อมย้ำวัคซีนไข้หวัดใหญ่ปี 2560 ครอบคลุมเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์แพร่ระบาดตามคำแนะนำ WHO ที่มาภาพประกอบ: huntlh (CC0)

ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2560 ที่ผ่านมาว่าจากนโยบายรัฐบาลที่มุ่งคุ้มครองสุขภาพประชาชน ไม่เพียงแต่การเข้าถึงการรักษาพยาบาล แต่ยังมุ่งส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ซึ่งโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคพบบ่อยทุกกลุ่มอายุ ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุ และเป็นโรคที่เกิดได้ตลอดปี โดยระบาดมากในช่วงฤดูฝน อาการป่วยที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อสุขภาพ การทำงาน การเรียน การใช้ชีวิตเนื่องจากผู้ป่วยต้องหยุดพักรักษาตัว ในผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงซึ่งมีภูมิต้านทานน้อย อาจมีอาการแทรกซ้อน บางรายอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ที่ผ่านมาบอร์ด สปสช.จึงอนุมัติงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในการจัดซื้อวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เพื่อฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในปี 2560 นี้ สปสช.ได้เตรียมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฤดูกาลใหม่ 3.1 ล้านโด๊ส โดยร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยบริการ เพื่อฉีดให้กับประชาชน 4 กลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิ คือ 1) หญิงมีครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 2) เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี 3) ผู้มีโรคเรื้อรังประจำตัว ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หัวใจ หืด ไตวาย โรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน 4) ผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 65 ปี โดยสามารถรับวัคซีนได้ที่หน่วยบริการรัฐและเอกชนภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2560 เป็นต้นไป

“ปี 2560 นี้ รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค และ สปสช.จึงขอเชิญชวนประชาชนกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ นอกจากป้องกันโรคแล้ว ยังลดภาวะแทรกซ้อน และการแพร่ระบาดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ โดยวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะมีผลป้องกันร้อยละ 60-70 ดังนั้นประชาชนจึงต้องควบคู่กับการดูแลตนเอง โดยหลีกเลี่ยงหรือป้องกันตนเองจากการสัมผัสผู้ที่ป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ การทำร่างกายให้แข็งแรง กินอาหารที่เอื้อต่อสุขภาพ และล้างมือให้สะอาด ซึ่งเป็นมาตรการที่จำเป็นสำหรับกลุ่มเสี่ยงและประชาชนทั่วไป” รมว.สาธารณสุข กล่าว

ด้าน นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สำหรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฤดูกาลใหม่นี้ เป็นวัคซีนที่ผลิตจากเชื้อตายชนิด 3 สายพันธุ์ คือ ชนิด A (H1N1), A (H3N2) และชนิด B ซึ่งมีความคุ้มค่าและความปลอดภัยกว่าวัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ ที่เพิ่งมีใช้ในภาคเอกชน เพราะมีประสบการณ์การใช้ในประเทศไทยยาวนานกว่า 10 ปี และยังเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่พบบ่อยในไทยและทั่วโลก นอกจากนี้ยังเป็นวัคซีนที่ใช้ได้ผลดี เนื่องจากเชื้อไม่มีปัญหากลายพันธุ์

สำหรับปี 2559 การระบาดของไข้หวัดใหญ่พบว่า มีไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A (H1 N1) เป็นสายพันธุ์ใหม่พบในมิชิแกน ส่วนชนิด A (H3 N2) และชนิด B (วิคตอเรีย) มีสายพันธุ์ใกล้เคียงกับที่ผ่านมา คือ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด H3 N2 ที่พบในฮ่องกง และชนิด B วิคตอเรีย พบในบริสเบน ดังนั้นปี 2560 องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงแนะนำวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์ ประกอบของไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A(H1 N1) สายพันธุ์ใหม่/มิชิแกนแทนแคลิฟอร์เนีย2009, ชนิด A (H3 N2) สายพันธุ์เดิม/ฮ่องกง และไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด B สายพันธุ์ เดิม/วิคตอเรีย หากในปีนี้มีการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่ขนิด B/วิคตอเรียเพิ่มขึ้น วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์ก็จะป้องกันครอบคลุมได้ ขณะที่วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ได้เพิ่มชนิด B/ยามากาตะ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่องค์การอนามัยโลกพิจารณาว่ามีโอกาสพบน้อยที่สุดของทั้งหมด โดยมีความชุกไม่ถึงร้อยละ 5 ทางการแพทย์ถือว่าประสิทธิภาพครอบคลุมใกล้เคียง จึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้วัคซีน 4 สายพันธุ์

ทั้งนี้จากรายงานเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบผู้ป่วย 167,220 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 255.58 ต่อแสนประชากร เสียชีวิต 44 ราย ผู้ป่วยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสูงกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปีย้อนหลัง และเป็นจำนวนสูงกว่าปี 2558 ถึง 2 เท่า ซึ่งมีผู้ป่วยจำนวน 75,114 ราย เสียชีวิต 44 ราย สำหรับในปีนี้ตั้งแต่ 1 มกราคม -20 มีนาคม 2560 พบผู้ป่วยแล้ว 16,754 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ A(H1N1), A(H3N2) และสายพันธุ์ B

เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า การเข้าถึงการป้องกันโรคด้วยวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ นับว่าเป็นนโยบายสำคัญหนึ่งของยุทธศาสตร์ สปสช. เรื่องความครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพ (Effective coverage) จึงขอเชิญชวนคนไทยทุกสิทธิที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 4 กลุ่มเข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ โดยรายละเอียดการขอเข้ารับสิทธิสอบถาม สายด่วน สปสช.1330 ได้ตลอดเวลา

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: