กลุ่มนักรบคอมมิวนิสต์ฟิลิปปินส์เสียชีวิต 15 คน ในจำนวนดังกล่าวมีผู้หญิง 6 คน จากการยิงปะทะกับทหารกองทัพรัฐบาล ในเมือง Nasugbu ทางตอนใต้ของกรุงมะนิลา เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยการปะทะมีขึ้นเพียงไม่ถึงสัปดาห์หลังจากประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ประกาศยกเลิกการเจรจาสันติภาพเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และดูเตอร์เตได้ประกาศทำสงครามกับกลุ่มกบฎคอมมิวนิสต์ที่ใช้ชื่อว่า 'กลุ่มประชาชนใหม่' (New People’s Army: NPA) และขู่ว่าจะขึ้นบัญชีกลุ่มดังกล่าวเป็น กลุ่มก่อการร้าย หลังเกิดเหตุการณ์การโจมตีและสังหารทหารและตำรวจหลายครั้ง
ด้านพลเอก Teody Toribio โฆษกกองทัพภาค เผยว่าเมื่อคืนวันอังคารเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสว่า เห็นกลุ่มคนติดอาวุธอยู่บนรถกระบะและรถบรรทุก แล่นอยู่ในเขตเมืองNasugbu ทางการจึงส่งทหารไปยังพื้นที่ และเกิดการยิงปะทะกัน ส่งผลให้นักรบกบฏเสียชีวิต 15 คนโดยหนึ่งในจำนวนนี้เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นนำของรัฐแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ทหารยังยึดปืนกบฏได้ 13 กระบอก ส่วนทหารได้รับบาดเจ็บ 5 นาย และไม่มีผู้เสียชีวิต ขณะที่แม่ทัพภาคให้เหตุผลในการโจมตีว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ยึดหลักการประกาศของประธานาธิบดี หลังการตัดสินใจยกเลิกการเจรจาสันติภาพ
พรรคคอมมิวนิสต์ฟิลิปปินส์ (Communist Party of the Philippines: CPP) จับอาวุธต่อสู้กับรัฐบาลมานาน 49 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 เพื่อโค่นล้มระบอบทุนนิยม ที่ทำให้ฟิลิปปินส์มีความแตกต่างระหว่างคนรวยและคนยากจน มากที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย การสู้รบทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 30,000 คน และการเจรจาสันติภาพสะดุดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การเจรจาถูกรื้อฟื้นอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว หลังจากดูเตอร์เตที่ประกาศตนเป็นนักสังคมนิยม ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี แต่ดูเตอร์เตหลีกเลี่ยงเข้าร่วมการเจรจาหลายครั้ง โดยกล่าวหาว่าNPA ซึ่งเป็นปีกกองทัพของ CPP ซึ่งมีนักรบในสังกัดประมาณ 3,800 คน ก่อเหตุโจมตีทหารและตำรวจบ่อยครั้ง
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: The New York Times, 29/11/2017
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ