รมว.พลังงาน ย้ำ 5 ปีสำรองไฟฟ้าเหลือเฟือ ไม่จำเป็นต้องซื้อไฟฟ้าเพิ่มทั้งในและต่างประเทศ ยกเว้นโครงการพิเศษประกาศชะลอโครงการ VSPP SEMI-FIRM ส่วนพลังงานทดแทนหากเข้าระบบได้ค่าไฟฟ้าต้องไม่เกินค้าส่ง 2.44 บาท/หน่วย ด้านโรงไฟฟ้าขยะชุมชน กบง.เห็นชอบรับซื้อราคาเดิมขยายเวลา SCOD แต่ไม่ขยายเวลาสิ้นสุดสัญญา ที่มาภาพประกอบ: wikimedia.org

สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2561 ว่านายศิริ จิรพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าวว่า ปริมาณกำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศทั้งปัจจุบันและไฟฟ้าใหม่ที่จะเข้าระบบทั้งโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และพลังงานทดแทนพบว่าใน 5 ปีข้างหน้าสำรองไฟฟ้าจะมีปริมาณสูงกว่าร้อยละ 20-30 ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องมีโรงไฟฟ้าใหม่เข้าระบบ ทั้งโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน หรือการรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ ยกเว้นโครงการพิเศษที่จะช่วยเหลือประชาชน เช่น โครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานชีวมวล 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตาม ในแง่ของพลังงานทดแทน หากมีผู้เสนอขายไฟฟ้าเข้าระบบอัตราต่ำกว่าราคาค้าส่งหรือราคาที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ 2.44 บาท/หน่วย ทางกระทรวงฯ จึงจะมีการเปิดรับซื้อเข้าระบบ

“สำรองไฟฟ้าที่สูงก็เป็นต้นทุนสูง เงินอุดหนุนพลังงานทดแทนปัจจุบันมีราคาสูง 20-25 สตางค์/หน่วย หรือกว่าหมื่นล้านบาท/ปี นับเป็นต้นทุนค่าไฟฟ้าที่สูงมากสำหรับผู้บริโภค จึงเห็นว่าไม่ควรมีการรับซื้อไฟฟ้าใหม่เข้าระบบอีก ยกเว้นไม่เป็นภาระต่อผู้บริโภค” นายศิริ กล่าว

นายศิริ กล่าวด้วยว่า ภาวะไฟฟ้าเหลือใช้ดังกล่าว กระทรวงพลังงานจะไม่ประกาศรับซื้อไฟฟ้าจาก โครงการสัญญาผลิตไฟฟ้า VSPP SEMI-FIRM จากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กมาก (วีเอสพีพี ) จำนวน 269 เมกะวัตต์ แม้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) จะเห็นชอบให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานออกประกาศรับซื้อไปก่อนหน้านี้ ขณะที่โครงการขยายเวลาเพื่อรับซื้อโรงไฟฟ้าเอสพีพีที่หมดอายุขณะนี้อยู่ระหว่างการทบทวนความเหมาะสมที่จะต้องดูถึงประเด็นหลากหลาย

ส่วนโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน (Quick Win) 77.9 เมกะวัตต์ กำหนดให้ไฟฟ้าเข้าระบบ( SCOD )ภายในปี 2562 ที่ กบง.มีมติเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2561 ให้ขยายเวลา SCOD แล้วแต่โครงการพร้อมเข้าระบบเมื่อใด แต่ไม่ขยายระยะเวลาสิ้นสุดสัญญา โดยในส่วนของการสิ้นสุดสัญญาเงินอุดหนุน FIT สำหรับการผลิตไฟฟ้าจากไบโอแก๊ส ของบ่อฝังกลบจะให้เงินอุดหนุนถึงปี 2572 โดยเดิมนั้นกำหนดรับซื้อ 10 ปี หลัง SCOD , ส่วนระบบไฟฟ้าแบบขยะผสมผสานเดิมรับซื้อ 20 ปี หลัง SCOD หรือสิ้นสุดปี 2582 ให้รับซื้อถึงปี 2582 ซึ่งการที่ กบง.มีมติเช่นนี้ ก็จะทำให้ผู้ประกอบการยังมีผลตอบแทนที่ดีจากค่า FIT ที่ 5.60 บาท/หน่วยเท่าเดิม แต่จำนวนปีที่ได้รับผลตอบแทนจะลดลงแล้วแต่โครงการจะเสร็จเมื่อใด

“ผู้ลงทุนอาจจะมีความเสี่ยงจากผลตอบแทนลดลงบ้าง แต่ดีกว่าความเสี่ยงที่จะไม่มีการลงทุน ซึ่งขณะนี้ในแง่ไฟฟ้าของประเทศนั้นมั่นคงไม่ขาดแคลน แต่ที่ส่งเสริมโรงไฟฟ้าขยะก็เป็นนโยบายลดปัญหาขยะของประเทศ” รมว.พลังงาน กล่าว