กองทัพฟิลิปปินส์อนุญาตให้ชาวเมืองมาราวีที่มีบ้านเรือนอยู่ในเขตชุมชนเมือง เดินทางเข้าสู่พื้นที่ได้เป็นครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อสำรวจความเสียหายก่อนการบูรณะ โดยอาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ในเขตชั้นในของเมืองมาราวีพังเสียหายยับเยิน จากการสู้รบนาน 5 เดือน นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 ระหว่างทหารกองทัพฟิลิปปินส์กับกลุ่มกบฏแนวร่วมกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ที่บุกยึดเมือง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 1,200 คน
เมืองมาราวีบนเกาะอยู่บนเกาะมินดาเนา ทางภาคใต้ของประเทศ และเป็นเมืองหลักของชาวมุสลิม ท่ามกลางประชากรสว่นใหญ่ที่นับถือศาสนาคริสต์ เมืองมาราวีจึงเป็นฐานที่มั่นหลักที่ถูกกลุ่ม IS ที่มีทั้งชาวฟิลิปปินส์และต่างชาติบุกยึดเมือง เพื่อหวังจะสถาปนาเมืองมาราวีให้เป็นฐาน IS ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประชาชนประมาณ 7,000 คน เดินสำรวจสภาพความเสียหายของบ้านเรือนร้านค้าของตนเอง โดยในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ กองทัพฟิลิปปินสจะอนุญาตให้ชาวเมืองมาราวีเข้าไปตรวจสอบสภาพบ้านเรือน และเก็บรวรวมสิ่งของเครื่องใช้ ได้ครั้งละ 3 วัน ก่อนจะมีการฟื้นฟูบูรณะก่อสร้างเมืองใหม่ครั้งใหญ่
ด้านพลเอก Romeo Brawner นายทหารกองทัพที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลเมืองมาราวีเผยว่า ในชุมชนเมืองที่เคยเป็นเขตสู้รบ มีระเบิดด้านตกค้างจากการโจมตีทางอากาศของกองทัพ 53 ลูก รวมน้ำหนัก 226 กิโลกรัม รวมทั้งระเบิดที่ทิ้งไว้โดยกลุ่มกบฏจำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กั้นเขตไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้จนกว่าการเก็บกู้จะแล้วเสร็จ
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: New Straits Times Press, 2/4/2018
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ