กลุ่มเกษตรกรและสหกรณ์โคนมเตรียมแจ้งความที่กองปราบปรามให้ดำเนินคดีกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับจัดสรรสิทธิจำหน่ายนมโรงเรียนบางกลุ่มที่จดแจ้งปริมาณรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรสูงกว่าที่รับซื้อจริง แต่งตัวเลขสูงเพื่อใช้ขอโควต้านมโรงเรียนและนำเข้านมผงในภาษีต่ำเพิ่มขึ้น ที่มาภาพประกอบ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2561 ว่านายปณภพ เฉลิมกลิ่น ผู้จัดการสหกรณ์โคนมท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ผู้แทนกลุ่มสหกรณ์โคนมที่ได้รับโควต้าจำหน่ายนมโรงเรียนกล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคมนี้ ทางกลุ่มจะเข้าร้องทุกข์ต่อกองปราบปรามให้ดำเนินคดีต่อกลุ่มผู้ประกอบการศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบกลุ่มหนึ่ง ซึ่งได้รับโควต้านมโรงเรียนเช่นกัน โดยระบุว่า กลุ่มผู้ประกอบการกลุ่มนี้ได้นำบันทึกข้อตกลงซื้อขายนม (MOU) จากเกษตรกรแล้วนำไปจดแจ้งต่อกรมส่งเสริมสหกรณ์ซึ่งเป็นประธานคณะอนุกรรมการบริหารนมทั้งระบบ โดยปริมาณซื้อขายใน MOU มากกว่าปริมาณน้ำนมดิบที่รวบรวมได้จริง เนื่องจากหากรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรมาก ก็มีโอกาสได้รับการพิจารณาจัดสรรสิทธิจำหน่ายนมโรงเรียนได้มาก อีกทั้งยังนำไปใช้ขอโควต้านำเข้านมผงได้มากขึ้นด้วย
นายปณภพ กล่าวว่า กลุ่มสหกรณ์โคนมได้เข้าหารือเรื่องนี้กับนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้นำคลิปซึ่งแอบถ่ายกระบวนการนำรถเวียนขนน้ำนมดิบมาให้เจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์ตรวจนับ ซึ่งพฤติกรรมคือ นำน้ำนมดิบที่รับมาในวันก่อนหน้า ไปเก็บไว้ที่โรงงานผลิตปุ๋ยแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคกลางฝั่งตะวันตก จากนั้นจ้างเกษตรกรซึ่งเป็นสมาชิกของศูนย์รวบรวมนมนำนมที่แอบซ่อนไว้มาส่งยังโรงงานแปรรูป เสริมกับน้ำนมดิบที่รีดได้ในวันนั้น เพื่อให้ปริมาณน้ำนมดิบที่เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ตรวจนับตรงกับปริมาณที่ทำ MOU ไว้ในการรับซื้อน้ำนมดิบแต่ละวัน
นายปณภพ ในการร้องทุกข์ต่อกองปราบปรามครั้งนี้ ต้องการให้ดำเนินคดีอาญาทั้งต่อศูนย์รวบรวมนมและผู้ประกอบการซึ่งจดแจ้งการรับซื้อน้ำนมดิบอันเป็นเท็จ รวมทั้งดำเนินคดีคณะอนุกรรมการบริหารจัดการนมทั้งระบบด้วย นอกจากนี้กลุ่มสหกรณ์โคมนมยังจะรวบรวมเอกสารการทำ MOU ของศูนย์รวบรวมนมและผู้ประกอบการที่จดแจ้งต่อกรมส่งเสริมสหกรณ์เพื่อส่งให้กรมสรรพากรตรวจสอบหลักฐานการเสียภาษีรวมทั้งการขอโควต้านมผงในอัตราภาษีต่ำ ซึ่งทำให้รัฐเสียประโยชน์อีกด้วย
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ