สำนักงานตำรวจแห่งชาติของฟิลิปปินส์เผยว่านับตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นวันที่ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต สั่งการให้ตำรวจกลับมาปฏิบัติการสงครามต่อต้านยาเสพติดครั้งใหม่ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่วิสามัญผู้ต้องสงสัยที่พัวพันยาเสพติดไปแล้ว 102 คน จนถึงวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา โดยดูเตอร์เตได้โยกย้ายภารกิจสงครามยาเสพติดจากตำรวจไปให้สำนักงานปราบปรามยาเสพติด (Drug Enforcement Agency: DEA) รับผิดชอบแทน แม้ว่าที่ผ่านมาจะต้องเผชิญกับกระแสต่อต้านอย่างหนักของประชาชนว่ามาตรการของตำรวจนั้นรุนแรงเกินไป แต่หลังจากนั้นไม่นานดูเตอร์เตเผยว่า การมอบหมายภารกิจทั้งหมดในเรื่องนี้ให้กับ DEA ซึ่งมีเจ้าหน้าที่เพียง 2,000 คนนั้น ยังไม่พอด้วยซ้ำ และอาจทำให้ผลงานที่ออกมาไม่มีประสิทธิภาพ 

แม้สำนักงานตำรวจแห่งชาติของฟิลิปปินส์ยังปฏิเสธให้ข้อมูลผู้เสียชีวิตก่อนวันที่ 5 ธันวาคม แต่อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ดูเตอร์เตเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2559  เจ้าหน้าที่สังหารผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดไปแล้ว 4,021 คน และองค์การสหประชาชาติ (UN) และองค์กรสิทธิมนุษยชนหลายแห่งเห็นว่าในความเป็นจริงน่าจะมากกว่านั้นหลายเท่า โดยอาจสูงถึง 12,000 คน

ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศของฟิลิปปินส์ได้แสดงความพร้อมในการให้ความร่วมมือกับคณะผู้ตรวจสอบของ UN ที่ต้องการลงพื้นที่สังเกตการณ์ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ หลังอัยการสูงสุดของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ประกาศเมื่อต้นเดือนที่แล้ว ว่าให้ริ่มการสืบสวนสอบสวนต่อสถานการณ์สงครามยาเสพติดในฟิลิปปินส์ แต่ผู้นำฟิลิปปินส์กลับสั่งการทหารและตำรวจไม่ต้องให้ความร่วมมือกับ UN ในปฏิบัติการครั้งนี้

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Khmer Times, 3/3/2018