นาย Andrew Gilmour ผู้ช่วยเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) ด้านสิทธิมนุษยชน แถลงภายหลังได้พูดคุยกับชาวโรฮิงญาที่เพิ่งเดินทางมาถึงค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศว่าการล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาจากพม่ายังคงดำเนินอยู่ และไม่คิดว่าสิ่งที่ได้เห็นและได้ยินที่คอกซ์บาซาร์จะสามารถสรุปเป็นอย่างอื่นได้ ทูตสิทธิมนุษยชน UN เห็นว่า พบการรณรงค์สร้างความหวาดกลัวและการบีบบังคับให้อดอยากของรัฐบาลพม่า ซึ่งวัตถุประสงค์เป็นไปเพื่อผลักดันชาวโรฮิงญาที่หลงเหลืออยู่ ออกจากบ้านเรือนของพวกเขาเข้าสู่บังกลาเทศ ซึ่งชาวโรฮิงญาที่เข้ามาใหม่นี้เดินทางมาจากเมืองชั้นในของรัฐยะไข่ที่ไกลจากชายแดน
ที่ผ่านมานับแต่กองทัพพม่าเปิดปฏิบัติการกวาดล้างในรัฐยะไข่ เพื่อตอบโต้ที่กองกำลังติดอาวุธชาวโรฮิงญาโจมตีที่ตั้งของฝ่ายความมั่นคง 30 จุดพร้อมกันเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2561 ได้สังหารตำรวจกว่า 10 นาย ส่งผลให้ชาวโรฮิงญาราว 700,000 คนพากันอพยพออกจากพื้นที่
Andrew Gilmour เผยอีกว่ารัฐบาลพม่าบอกต่อชาวโลกว่าพม่าพร้อมจะรับชาวโรฮิงญากลับคืน แต่ในขณะเดียวกัน กองทัพพม่าก็กำลังผลักดันพวกเขาเข้าสู่บังกลาเทศอย่างต่อเนื่อง การกลับคืนถิ่นอย่างปลอดภัยนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ภายใต้สภาพการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้
นอกจากนี้ยังพบว่าพม่าไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าว นักการทูต และองค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งหมด เข้าถึงพื้นที่ตอนเหนือของรัฐยะไข่ ยกเว้นการเยือนช่วงสั้นๆ ที่มีทหารติดตามไปด้วย ซึ่งกองทัพพม่าอ้างว่าการปราบปรามของพวกเขาเป็นปฏิบัติการที่ชอบด้วยเหตุผลเพื่อกวาดล้างกองกำลังติดอาวุธชาวโรฮิงญาที่โจมตีสังหารตำรวจเมื่อปีทีแล้ว
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: The Independent, 6/3/2018
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ