'มันสำปะหลัง' ราคาพุ่ง 3.15 บาท สูงสุดในรอบ 10 ปี

กองบรรณาธิการ TCIJ 7 ก.ค. 2561 | อ่านแล้ว 23046 ครั้ง

'มันสำปะหลัง' ราคาพุ่ง 3.15 บาท สูงสุดในรอบ 10 ปี

รายงานจากสื่อ 'ประชาชาติธุรกิจ' พาณิชย์ถก 4 ชาติอาเซียน หวั่นชอร์ตซัพพลายหัวมัน ดันราคาพุ่ง คาดการณ์ผลผลิตมันสำปะหลังปี 2561 มีเพียง 44 ล้านตัน ส่งผลราคามัน กก.ละ 3.15 บาท สูงสุดในรอบ 10 ปี ที่มาภาพประกอบ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ รายงานว่าเมื่อวันที่ 27-28 มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน World Tapioca Conference 2018 ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมการค้าต่างประเทศและสมาคมมันสำปะหลัง 4 สมาคม ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย และมูลนิธิสถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย ภายในงานนี้ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) 5 ฉบับ รวมปริมาณ 1.49 ล้านตัน มูลค่า 14,134 ล้านบาท ได้แก่ 1) บริษัท P.R. INTERTRADE จำกัด และบริษัท FULAICHUN GROUP จากจีน ปริมาณ 800,00 ตัน มูลค่า 6,623 ล้านบาท 2) บริษัท SB Premier Product และ Agro by Nature จากตุรกี 500,000 ตัน มูลค่า 4,139 ล้านบาท 3) บริษัท Bangna Tapioca Flour และ Sungai Budi Group จากอินโดนีเซีย 120,000 ตัน มูลค่า 2,128 ล้านบาท 4) บริษัท Sanguan Wong Starch และ Sansho จากประเทศญี่ปุ่น 20,000 ตัน 354 ล้านบาท และ 5) Chakangrao Starch และ Venkatrayar Sago Factory & KKVs Classic Foods จากประเทศอินเดีย 50,000 ตัน 887 ล้านบาท

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายการหาตลาดรองรับผลผลิตล่วงหน้าตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้เน้นการใช้นโยบายการตลาดนำการผลิต ส่งผลให้ราคาหัวมันสำปะหลังเฉลี่ย กก.ละ 3.15 บาท ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบ 10 ปี ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตั้งแต่ระดับฐานราก

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้กระทรวงพาณิชย์จะเร่งบุกตลาดใหม่ อาทิ นิวซีแลนด์ ตุรกี เพื่อผลักดันการส่งออกมันสำปะหลังปีนี้คาดว่าจะทำได้ 10.6 ล้านตันจากปี 2560 ที่ส่งออกได้ 11 ล้านตัน เนื่องจากผลผลิตไทยลดลง โดยในช่วง 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) 2561 ส่งออกได้ปริมาณ 3.62 ล้านตัน ลดลง 7.99% มูลค่า 1,178 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 26.26% ซึ่งคาดว่ามูลค่าการส่งออกปี 2561 จะสูงกว่า 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การสร้างความร่วมมือในการรวมกลุ่มประเทศผู้ผลิตและผู้ส่งออกมันสำปะหลังในอาเซียน CLMVT (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการผลักดันการผลิตและการส่งออก เพราะที่ผ่านมาสมาชิกอาเซียนส่วนใหญ่พึ่งพาตลาดส่งออกจีนเป็นหลัก หากสามารถวางแผนการผลิตและการทำตลาดช่วยให้เกิดความเข้มแข็ง โดยหลังจากนี้จะมีการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า

“แม้ว่าปีนี้ปริมาณผลผลิตจะลดลงจนทำให้ราคามันสำปะหลังสด และราคาส่งออกปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่าราคาเกณฑ์ที่ 4 สมาคมกำหนด แต่ก็ยังจำเป็นต้องคงมาตรการกำหนดราคาส่งออกขั้นต่ำไว้ เพื่อให้เกิดความมีเสถียรภาพราคา”

นายบุญชัย ศรีชัยยงพานิช นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย กล่าวว่า คาดการณ์ผลผลิตมันสำปะหลังปี 2560/2561 กลุ่มประเทศอาเซียน CLMV ปี 2561 มีปริมาณ 43-44 ล้านตัน ลดลงจากปีก่อน โดยเวียดนามผลิตได้ 8 ล้านตันจากปีก่อน 10 ล้านตัน จากปัญหาโรคใบด่าง, กัมพูชาผลิตได้ 9 ล้านตัน จากปีก่อน 13 ล้านตัน ลาวผลิตได้ 2.4 ล้านตัน และไทยผลิตได้ 24 ล้านตัน จากที่เคยผลิตได้ 28-30 ล้านตัน สวนทางกับความต้องการใช้ภายในประเทศ CLMVT มีปริมาณคงที่อยู่ที่ 15-16 ล้านตัน และความต้องส่งออกโดยเฉพาะตลาดจีนที่ีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

เมื่อซัพพลายมันสำปะหลังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ ส่งผลให้หัวมันในแต่ละประเทศปรับตัวสูงขึ้น เช่น ราคามันสำปะหลังของไทยมีแนวโน้มมากกว่า กก.ละ 3 บาท อย่างไรก็ตามในปี 2561/2562 ทุกประเทศใน CLMVT คาดการณ์ว่าผลผลิตจะปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะเวียดนามอาจมีปริมาณ 9 ล้านตัน

“ทุกประเทศยินดีที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เพราะที่ผ่านมาทุกประเทศต่างพึ่งพาการส่งออกไปตลาดจีนเหมือนกัน แต่ได้รับข้อมูลด้านผู้ซื้อซึ่งทำให้รู้สึกเสมือนกับแต่ละประเทศตัดราคาขายกันจนทำให้ราคาต่ำ หากมีการเชื่อมโยงข้อมูลก็จะส่งผลดีต่อการค้ามันสำปะหลัง กรณีนี้ไม่ใช่เป็นการตกลงราคาร่วมกัน เพราะต้นทุนการผลิตของแต่ละประเทศไม่เท่ากันอยู่แล้ว เพียงแต่เราจะรู้ว่าแต่ละประเทศเป็นอย่างไร นอกจากนี้ไทยยังได้เสนอให้สมาชิกยกระดับมาตรฐานการผลิตมันสำปะหลังคุณภาพดี เพื่อให้ได้ราคาด้วย”

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: