พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวแห่งสหรัฐอเมริกา (The US Holocaust Memorial Museum) ได้แจ้งต่อนางซูจีว่าต้องการเพิกถอนรางวัลเชิดชูเกียรติด้านสิทธิมนุษยชน หลังเคยมอบรางวัล 'Elie Wiesel Award' แก่นางอองซาน ซูจี เมื่อปี 2555 เนื่องจากความเป็นผู้นำที่กล้าหาญในการขัดขืนกับผู้นำเผด็จการและการขับเคลื่อนเสรีภาพในพม่า โดยพิพิธภัณฑ์ฯ ให้เหตุผลว่า นางอองซาน ซู จี วางเฉยต่อหลักฐานที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่ากองทัพพม่ากำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่โดยแทบไม่ทำอะไรเลย

รายละเอียดในจดหมายที่พิพิธภัณฑ์ส่งถึงนางอองซาน ซู จี  มีใจความว่าในช่วงยามที่การณ์เริ่มปรากฏให้เห็นว่ากองทัพพม่าโจมตีโรฮิงญาช่วงปี 2559-2560 พิพิธภัณฑ์ฯหวังในตอนนั้นว่า นฐานะที่เป็นบุคคลที่พวกตนและผู้คนอีกจำนวนมากยกย่องในความทุ่มเทเพื่อศักดิ์ศรีความมนุษย์และสิทธิมนุษยชนสากล จะทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อประณามและหยุดยั้งการรณรงค์อันโหดร้ายป่าเถื่อนของกองทัพ และแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับประชากรชาวโรฮิงญาที่ตกเป็นเป้าหมาย แต่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) กลับปฏิเสธจะให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการสอบสวนขององค์การสหประชาชาติ และยังต่อต้านชาวโรฮิงญา

ย้อนไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว พิพิธภัณฑ์ฯ ร่วมกับ Fortify Rights องค์กรจับตาสิทธิมนุษยชนจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผยแพร่รายงานที่ได้จากปากคำชาวโรฮิงญา พบว่ามีการโจมตีพลเรือนชาวโรฮิงญาอย่างเป็นระบบและกว้างขวาง ส่งผลให้ องค์กรหลายแห่งที่เคยมอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้นาง ร่วมกันเพิกถอนรางวัลกลับคืน 

อย่างไรก็ตามรัฐบาลพม่าแถลงการณ์โต้กลับพิพิธภัณฑ์ฯ ว่าสถานทูตพม่าในกรุงวอชิงตันได้แสดงความเสียใจ ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่เห็นสถานการณ์ที่แท้จริง ถูกใช้ประโยชน์และชักนำให้หลงผิด พร้อมน้ำว่าการตัดสินใจดังกล่าวไม่มีผลต่อการสนับสนุนที่ชาวพม่ามีต่อนางอองซาน ซู จี  แต่จะยิ่งเพิ่มความพยายามของพม่าในการหาทางออกที่ยั่งยืน   

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Channek News Asia, 7/3/2018