การควบรวมกิจการ Uber และ Grab ในอาเซียนยังไม่ราบรื่น ล่าสุดหน่วยงานกำกับดูแลการค้ายุติธรรมสิงคโปร์แถลงว่าดีลที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาทำให้ตลาดไม่มีการแข่งขันเท่าที่ควร ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะการขึ้นค่าโดยสารจนผู้บริโภคได้รับผลกระทบในอนาคต เบื้องต้นรัฐบาลเตรียมสั่งจ่ายค่าปรับและมีแผนการออกคำสั่งชะลอการควบรวมกิจการอีกด้วย
คณะกรรมาธิการการแข่งขันและผู้บริโภคแห่งประเทศสิงคโปร์ (Competition and Consumer Commission of Singapore: CCCS) เป็นหน่วยงานที่เสนอให้เรียกค่าปรับจากทั้งสองบริษัท นอกจากนี้ดีลนี้ยังทำให้ Uber ได้รับหุ้นจาก Grab สัดส่วน 27.5% ขณะที่ซีอีโอ Uber อย่าง Dara Khosrowshahi ยังได้สิทธิ์เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการบริหาร Grab โดย CCCS แถลงการณ์ล่าสุดว่าการควบกิจการครั้งนี้ทำให้บริษัทใหม่ที่ต้องการแข่งขันในตลาดนี้พบอุปสรรคใหญ่ในการเข้าสู่ตลาด ผลที่จะตามมาคือตลาดจะมีนวัตกรรมน้อยลง ส่งให้คุณภาพของบริการต่ำลง ผลกระทบเหล่านี้อาจเป็นผลให้ Uber และ Grab ถูกปรับ ขณะที่ดีลควบรวมกิจการอาจต้องถูกระงับเช่นกัน
อย่างไรก็ตามความเสี่ยงที่จะมีคำสั่งล้มดีลควบรวม Uber และ Grab จาก CCCS ยังมีสูงมาก เพราะนอกจากเหตุผลเรื่องการแข่งขันที่ลดลงอย่างมากแล้ว เจ้าหน้าที่ CCCS ยังเผยด้วยว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้แจ้งให้หน่วยงานตรวจสอบการควบรวมกิจการ ทราบถึงข้อมูลอื่นที่อาจส่งให้เกิดการต่อต้านการแข่งขันในประเด็นอื่นๆ เลยในช่วงที่ผ่านมา เบื้องต้น CCCS ยังเสนอให้ Grab รักษาอัลกอริทึ่มการกำหนดราคาของการทำธุรกรรมล่วงหน้าและอัตราค่าคอมมิชชั่นของคนขับจนกว่าการแข่งขันจะฟื้นขึ้นมาในตลาด ขณะที่ Uber และ Grab ยังไม่ได้ให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ในทันที
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Today Online, 7/7/2018
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ