นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย เผยในที่ประชุมนักลงทุนของประเทศว่ารัฐบาลอาจต้องออกภาษีใหม่เพื่อหาเงินชำระหนี้ที่สูงถึง 1 ล้านล้านริงกิต (ราว 7.9 ล้านล้านบาท) หรืออาจต้องจำหน่ายทรัพย์สินที่มีอยู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือที่ดิน หลังจากนั้นอาจต้องจำหน่ายทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ เพื่อหาเงินชำระหนี้ของชาติ ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันได้กล่าวโทษรัฐบาลนายนาจิบ ราซัค ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ประเทศมีภาระหนี้สินมหาศาล
ที่ผ่านมาหลังจากมหาเธร์ซึ่งผันตัวไปเป็นฝ่ายค้านและชนะเลือกตั้งถล่มทลายเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ไล่เช็คบิลอดีตนายกรัฐมนตรีอย่างนาจิบ ราซัค ไปแล้วกว่า 30 คดี รวมถึงกองทุนพัฒนามาเลเซีย (1MDB) ที่ถูกหลายประเทศสอบสวนเรื่องทุจริตและการฟอกเงิน
อย่างไรก็ตามรัฐบาลของมหาเธร์ ต้องเร่งมองหาแหล่งรายได้ใหม่ๆ เพื่อชดเชยรายได้ที่เสียไปจากการยกเลิกภาษีสินค้าและบริการ (GST) ที่เก็บในอัตรา 6% มาตั้งแต่ปี 2558 โดยนำภาษีขายและภาษีบริการ (SST) อัตรา 5-15% กลับมาใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน
ด้านนาย Lim Guan Eng รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมาเลเซีย เผยว่ามาเลเซียจะพิจารณาเรื่องการออกตราสารหนี้ควบคู่กับการจำหน่ายทรัพย์สินเพื่อหาเงินชำระหนี้ระยะสั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Channel News Asia, 10/10/2018
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ