ประธานาธิบดีโรดิโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ เตรียมขออนุมัติจากสภาเพื่อต่ออายุกฎอัยการศึกไปจนถึงสิ้นปีหน้า ตามข้อเสนอของกองทัพด้วยเหตุผลเพื่อช่วยยับยั้งเหตุการณ์ไม่สงบและการก่อการร้าย ซึ่งรับาลมั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างมากจากประชาชนส่วนใหญ่ที่มีอยู่ราว 21 ล้านคนบนเกาะมินดาเนา โดยที่ผ่านมากองทัพฟิลิปปินส์ได้ออกมาแถลงว่าได้รับเสียงตอบรับในทางดีจากประชาชน ไม่เพียงเฉพาะเรื่องการนำอำนาจตามกฎอัยการศึกไปปฏิบัติเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลกระทบในทางบวกที่มีต่อสถานการณ์ความมั่นคง ต่อเศรษฐกิจในท้องถิ่น รวมทั้งต่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของชุมชนภายใต้กฎอัยการศึกด้วย

อย่างไรก็ตามกฎอัยการศึกของฟิลิปปินส์ในปัจจุบัน รัฐบาลอ้างว่าช่วยยับยั้งการก่อตัวขึ้นใหม่ของกลุ่มหัวรุนแรงชาวมุสลิม หลังจากที่กลุ่มดังกล่าวซึ่งได้รับแรงกระตุ้นจูงใจมาจากกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ซึ่งถูกกองทัพของฟิลิปปินส์ปราบปรามไปเมื่อปี 2560 นอกจากนั้นกองทัพฟิลิปปินส์ยังอาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึกนี้ติดตามความเคลื่อนไหวของสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบ ด้วยการเรียกตัวมาสอบปากคำ และสกัดกั้นพลพรรคเหล่านี้ไม่ให้เดินทางเข้าไปในเขตเมืองอีกด้วย

ด้านนาย Enrico Cau นักวิจัยสถาบัน Taiwan Center for International Strategic Studies เผยว่าชาวเมืองมาราวีรวมทั้งชุมชนต่างๆ ต้องการเสถียรภาพความมั่นคง ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และสถานการณ์ที่สามารถควบคุมได้เพื่อแลกกับเสรีภาพบางส่วนที่ต้องเสียไปภายใต้กฎอัยการศึกนี้ แต่ก็ยังมีความกังวลว่าดูเตอร์เตอาจต้องการขยายกฎอัยการศึกไปทั่วประเทศ เพื่อปราบปรามการค้ายาเสพติดและเพื่อสยบกลุ่มที่ต่อต้านนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล ซึ่งต่อต้านคัดค้านส่วนใหญ่ที่มีอยู่ก็มาจากกลุ่มที่รณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนเท่านั้นเอง

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Rappler, 10/12/2018