ผู้เสียหายในคดีเสาไฟล้มฟาดรถ แย้งคำชี้แจงทางหลวง ลั่นภาพในคลิปชี้ชัด เสาล้มมาทับหน้ารถแบบจะ ๆ ไม่ใช่รถขับไปชนเอง แถมเรื่องค่ารักษาพยาบาลก็ไม่ได้ช่วยแต่อย่างใด จะชดใช้เงินให้เพียง 50,000 บาทเท่านั้น

เว็บไซต์เดลินิวส์ รายงานเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2561 ว่าจากกรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปเหตุการณ์ รถบรรทุกถอยชนเสาไฟโค่นล้มลงมาฟาดใส่รถยนต์ขณะขับผ่านถนนมอเตอร์เวย์ หมายเลข 6 บางประอิน-สระบุรี-โคราช กม.ที่ 81-82 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสี ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างถึงความประมาทในการทำงานก่อสร้างทั้งที่เป็นโครงการของรัฐ จนทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งภายหลังฝ่ายประชาสัมพันธ์กรมทางหลวง (ทล.) ได้ออกมาชี้แจ้งทำนองว่า ฝ่ายรถยนต์ขับมาชนเสาไฟดังกล่าวเอง และทางโครงการก่อสร้างได้เข้าไปช่วยเหลือส่งรพ.รวมทั้งดูแลค่าใช้จ่ายระหว่างรักษาตัว ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2561 นางณัฎฐ์ชวัล สังข์เมือง ผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เปิดเผยว่าหลังจากที่ตนเองตกเป็นข่าวฝ่ายทางหลวงได้ชี้แจงกับสื่อทันที แต่สิ่งที่ชี้แจงนั้นตนเห็นว่าไม่ได้เป็นความจริงทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องที่อ้างว่าได้ดูแลและเข้ามาช่วยเหลือค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลทั้งหมดระหว่างรักษาตัว เพราะความจริงแล้ว ระหว่างที่เข้ารักษาตัวห้องไอซียูที่ รพ.กรุงเทพปากช่อง ตนกับบริษัทประกันที่คุ้มครองรถของตนได้ออกค่าใช้จ่ายกันเองทั้งสิ้น ส่วนการเข้าเยี่ยมก็ปรากฏแค่เพียง เจ้าหน้าที่ทางหลวง และตัวแทนผู้รับเหมา 3 ราย หิ้วกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงร่างกาย กับ ไก่เคเอฟซี 1 ถัง มาให้ก่อนจะหายหน้าหายตาไม่มาอีกเลย

ส่วนที่อ้างว่าก่อสร้างทำเสาล้ม แล้วสามีของตนขับรถไปชนเองนั้น ถ้าดูจากคลิปจะสังเกตเห็นว่า เสาที่ล้มจังหวะกระชั้นชิดมาก แถมยังโค่นลงมาในทันทีด้วย เบรกยังไงก็ไม่มีทางทัน ที่ผ่านมาถือว่าโชคดีมาก เพราะไม่มีรถตามหลังมาชนซ้ำ มิเช่นนั้นตนก็คงไม่สามารถออกมาชี้แจ้งร้องทุกข์ได้เช่นนี้ ผู้ที่ออกมาแก้ต่างให้ทางหลวงควรมีสติปัญญาในการไตร่ตรองถึงสาเหตุที่แท้จริงว่า เรื่องนี้เกิดจากอุบัติเหตุของผู้ขับขี่บนถนน หรือ เป็นเพราะความประมาทเลินเล่อขั้นร้ายแรงของเจ้าหน้าที่โครงการที่รัฐว่าจ้างกันแน่

ในส่วนที่ว่าทางหลวงได้เจรจาเรื่องความรับผิดชอบแท้จริงแล้วทางหลวงได้ให้ตัวแทนบริษัทประกันแห่งหนึ่งมาพูดคุยกับตน 2 ครั้ง คือวันที่ 9 มิ.ย. และ 30 มิ.ย. 2561 รวมทั้งตนไปเรียกร้องเรื่องเงิน 1 ล้านบาท ค่าขาดรายได้ ค่าทนายอีก 5 แสน และรถยนต์คันใหม่ 1 คันนั้น ความจริงแล้วเป็นการเจรจากันที่ สภ.หนองสาหร่าย 2 ครั้ง และเพิ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา โดยตัวแทนบริษัทประกันของฝ่ายทางหลวง ปฏิเสธการจ่ายเงินเยียวยาทั้งหมด 3.5 ล้าน (ค่าขาดรายได้, ค่ารถหรือค่าขาดประโยชน์จากการซ่อมแซมหรือรอรถใหม่, ค่าจ้างแม่บ้านในการดูแลรักษาพยาบาลในชีวิตประจำวัน, ค่าเสียหายอื่นๆอันมิใช่ตัวเงินและได้รับทุกขเวทนาทรมานบาดเจ็บด้านร่างกายและจิตใจทั้งครอบครัว, ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง) และปฏิเสธจัดหารถยนต์ให้ใหม่ 1 คัน ซึ่งทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงที่ผ่านการกรองโดยทนายแล้ว แต่กลับบอกว่าจะจ่ายเงินให้เพียง 50,000 บาทเพื่อให้จบเรื่องเท่านั้น

"จำนวนเงินจะไม่มีค่าเลย ถ้าเทียบกับนาทีชีวิต ลองคิดดูว่าถ้าเกิดเร็วขึ้นอีกเพียงเสี้ยววินาที เสาไฟตนนั้นต้องทับเต็ม ๆ ทั้งหลังคารถ นั่นหมายถึงเสียชีวิตยกครัว แล้วแทนที่อีกฝ่ายจะรับผิดชอบในสิ่งที่เรียกร้องไป กลับส่งตัวแทนประกันมาปฏิเสธ พร้อมกับบอกว่าจะชดใช้เงินให้เพียง 50,000 บาทเท่านั้น และขอให้จบเรื่อง ไม่เช่นนั้นก็ให้ไปฟ้องร้องเอาเอง แล้วแบบนี้จะบอกว่านี่คือความเป็นธรรมจากภาครัฐเช่นนั้นหรือ" นางณัฎฐ์ชวัล กล่าวทิ้งท้าย