หวังภาครัฐแก้ไข 'บัตรประชาชน Smart Card' ป้องกันสวมบัตรเปิดบัญชี

กองบรรณาธิการ TCIJ 14 ม.ค. 2561 | อ่านแล้ว 2243 ครั้ง

หวังภาครัฐแก้ไข 'บัตรประชาชน Smart Card' ป้องกันสวมบัตรเปิดบัญชี

ธนาคารออมสิน แจงกรณีมิจฉาชีพสวมรอยใช้บัตรประชาชนผู้อื่นเปิดบัญชีเงินฝากพร้อมดูแลผู้เสียหายอย่างเป็นธรรม คาดหวังภาครัฐแก้ไข Smart Card บัตรประชาชนให้เข้าถึงข้อมูลมากขึ้น ป้องกันสวมบัตรเปิดบัญชี ที่มาภาพประกอบ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2561 ว่านายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่าจากกรณีที่ธนาคารออมสินเป็น 1 ในสถาบันการเงินที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพสวมรอยปลอมตัวเหมือนบุคคลในบัตรประชาชนทำการเปิดบัญชีเงินฝากเพื่อใช้ในการหลอกลวงหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดในทางที่ไม่ถูกกฎหมายนั้น ธนาคารฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบทันทีตั้งแต่ได้รับทราบข่าว และอายัดบัญชีไว้ พร้อมทั้งดำเนินการตรวจสอบรายการการฝากเงินถอนเงิน เพื่อเป็นข้อมูลอันจะเป็นประโยชน์สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งธนาคารออมสินพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังติดตามจับกุมตัวคนร้ายอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ ในส่วนของธนาคารออมสินนั้น ได้มีระเบียบวิธีปฏิบัติการเปิดบัญชีเงินฝากและการยืนยันตัวตนของผู้มาเปิดบัญชีเป็นไปตามมาตรฐานและกฎเกณฑ์ทางราชการ โดยขั้นตอนการดำเนินการให้ลูกค้าแสดงตน ด้วยการแสดงข้อมูลและหลักฐาน ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน เป็นไปตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง วิธีการแสดงตนของลูกค้าสถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพตามประกาศของทางการ ดำเนินการโดยตรวจสอบความถูกต้องของหลักฐานการแสดงตนผ่านเครื่องอ่านบัตร (Smart Card Reader) แล้วตรวจสอบตัวตนของลูกค้ากับบัตรประชาชนที่นำมาเปิดบัญชี หลังจากนั้น ตรวจสอบข้อมูลการแสดงตนของลูกค้าบนใบคำขอเปิดบัญชีว่าตรงกับข้อมูลบนหน้าบัตรประชาชน หลังจากนั้นจึงดำเนินการเปิดบัญชี

“จากกรณีดังกล่าวเครื่องอ่านบัตร Smart Card Reader ได้แสดงข้อมูลปรากฏตามหน้าบัตรประชาชนเท่านั้น คือ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ชื่อ-สกุล เพศ อายุ วันเดือนปีเกิด สถานะ ที่อยู่ และภาพถ่ายบุคคลเจ้าของบัตรเท่านั้น มิได้มีข้อมูลยกเลิกหรือแจ้งอายัดบัตรประชาชนแต่อย่างใด ถือเป็นการเข้าถึงข้อมูลที่จำกัด เชื่อว่าจากเหตุการณ์ในครั้งนี้จะนำมาซึ่งความร่วมมือ ระหว่างสถาบันการเงิน กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สถาบันการเงินสามารถเข้าถึงข้อมูลบุคคลได้มากขึ้น เช่น ฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันที่สุด หรือข้อมูลด้านการอายัด/ยกเลิกบัตร เป็นต้น”นายชาติชาย กล่าว

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้น ธนาคารฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงตามกฎระเบียบและวิธีปฏิบัติ รวมถึงให้ความร่วมมือกับทางราชการในการดำเนินกรสอบสวนหาผู้กระทำผิด และจะมีการดำเนินการเพื่อหาข้อสรุปที่เหมาะสมและเป็นธรรม เพื่อเยียวยาแก่ผู้เสียหายต่อไป

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: