พล.อ.อาวุโส Min Aung Hlaing ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่า กล่าวในการประชุมเจรจาสันติภาพ ครั้งที่ 3 ภายใต้การนำของนางออง ซาน ซูจี ในกรุงเนปีดอ ว่ากลุ่มชาติพันธุ์ต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อกระบวนการสร้างสันติภาพที่หยุดชะงัก เพราะมันกำลังถ่วงประเทศพม่า จึงอยากที่จะเรียกร้องให้ลบล้างความขัดแย้งทางอาวุธที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาประเทศ ขณะที่นางออง ซาน ซูจี เผยว่าการสร้างสันติภาพเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของการบริหารประเทศในปัจจุบัน
ด้านรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของพม่า เผยว่ากองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ไม่ได้ดำเนินการให้มากพอที่จะบรรเทาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นมากที่ต้องควบคุมคนของพวกเขาเอง เพราะหากคนของพวกเขาไม่มีระเบียบวินัย ปัญหาก็สามารถเกิดขึ้นได้
ปัจจุบันมีกลุ่มชาติพันธุ์ลงนามข้อตกลงสันติภาพทั้งหมด 10 กลุ่ม และมีอย่างน้อย 7 กลุ่ม ที่รวมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุด และทรงอิทธิพลยังไม่ร่วมลงนาม สาเหตุดังกล่าวมาจากการสร้างสันติภาพถูกขัดขวางจากเหตุปะทะที่เกิดขึ้นต่อเนื่องระหว่างทหาร และกลุ่มติดอาวุธที่ต่อสู้เรียกร้องการปกครองตนเองในรัฐคะฉิ่น และรัฐฉาน แต่ความขัดแย้งเหล่านี้ ถูกบดบังด้วยเหตุความรุนแรงในพื้นที่ภาคตะวันตกของประเทศ ที่กองทัพขับไล่ชาวมุสลิมโรฮิงญากว่า 700,000 คน ออกจากรัฐยะไข่ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม รายงานของมูลนิธิเอเชียในปีระบุว่า มากกว่า 1 ใน 3 ของเมืองทั้งหมดในพม่า ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เหตุปะทะรุนแรงบางเหตุการณ์กำลังเกิดขึ้นในรัฐคะฉิ่น ทางตอนเหนือของประเทศที่ประชาชนมากกว่า 100,000 คน ต้องพลัดถิ่นจากความรุนแรง
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Radio Free Asia, 13/7/2018
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ