หลังจากที่รัฐบาลเวียดนามเตรียมผ่านกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2562 ซึ่งให้อำนาจกับรัฐบาลมากขึ้นในการปราบปรามผู้เห็นต่าง โดยตัวกฎหมายระบุว่าต้องการให้เฟซบุ๊ก กูเกิล และบริษัทด้านเทคโนโลยีระดับโลกต่างๆ จัดเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานชาวเวียดนามไว้ในประเทศ และเปิดสำนักงานในประเทศ ขณะที่โฆษกของบริษัทเฟซบุ๊กไม่ได้แสดงความเห็นในเรื่องนี้
ที่ผ่านมาแม้เวียดนามดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง และเปิดกว้างมากขึ้นต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม แต่พรรคคอมมิวนิสต์ยังคงไม่ยินยอมต่อความเห็นต่าง และเตรียมจะควบคุมสื่อในประเทศอย่างเบ็ดเสร็จ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงข้อมูลข่าวสาร เผยว่า เฟซบุ๊กควรสงวนรายได้เพื่อลงทุนในการวิจัยและพัฒนา และเปิดสำนักงานในเวียดนามเร็วๆ นี้
ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกแม้จะออกมาคัดค้านมาตราเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลในท้องถิ่น แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีคัดค้านเช่นเดียวกันนี้กับมาตราอื่นๆ ของกฎหมาย ที่ช่วยเสริมความสามารถของรัฐบาลในการปราบปรามนักเคลื่อนไหวทางการเมืองบนโลกออนไลน์ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ของบริษัทยังคงแสดงความวิตกกังวลว่าศูนย์ข้อมูลและสำนักงานท้องถิ่นอาจทำให้เป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับเจ้าหน้าที่ที่จะยึดข้อมูลลูกค้า และอาจทำให้พนักงานท้องถิ่นถูกข่มขู่คุกคามจากการจับกุม
นายกรัฐมนตรีเหวียน Xuan Phuc ของเวียดนามได้หารือกับนาย Simon Milner รองประธานฝ่ายนโยบายภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเฟซบุ๊ก ว่าเฟซบุ๊กควรรับผิดชอบด้านความมั่นคง ความปลอดภัย และการปกป้องคุ้มครองบัญชีผู้ใช้งานในเวียดนามราว 60 ล้านบัญชี
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Reuters, 14/9/2018
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ