ก.คลัง เตรียมปรับปรุงกฎหมายร่วมทุน (PPP) เปิดทางให้เอกชนทั้งในและต่างชาติเข้ามายื่นเสนอก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่อีกหลายโครงการของรัฐได้เพิ่มเติม มั่นใจ TFF เสนอขายได้ก่อนเดือน ก.ค. นี้ ที่มาภาพประกอบ: sti.or.th

เว็บไซต์ moneychannel.co.th รายงานเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2561 ที่ผ่านมาว่านายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่ากระทรวงการคลังเตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาแก้ไขร่างพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือ พ.ร.บ.ร่วมทุน หรือ พ.ร.บ.PPP ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อเปิดทางให้เอกชนทั้งในและต่างชาติ เข้ามายื่นเสนอก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่อีกหลายโครงการของรัฐได้เพิ่มเติม เนื่องจากรัฐบาลมีโครงการลงทุนอีกหลายโครงการ และปีนี้เป็นปีแห่งการเริ่มลงทุนโครงการของรัฐจำนวนมาก

นอกจากนี้ การนำระบบพีพีพีฟาสต์แทร็กที่ใช้ในการพิจารณาโครงการลงทุนปัจจุบัน เข้าบรรจุในร่างกฎหมาย พ.ร.บ.ร่วมทุน เพื่อให้ขั้นตอนในการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการคืบหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว เพียง 9 เดือนจากเดิมเพียงแค่การศึกษาใช้เวลานานนับ 2 ปี คาดว่าร่าง พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ จะผ่านความเห็นของสภา สนช.ได้ตามเป้าหมาย เพื่อให้การลงทุนโครงการขนาดใหญ่เริ่มเกิดขึ้นได้ในปีนี้ เมื่อระบบพีพีพีฟาสต์แทร็ก บรรจุไว้ในกฎหมายจะทำให้โครงการอื่นต้องนำไปปรับใช้ด้วยเช่นกัน

ด้าน ดร.สมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง บอกถึงความคืบหน้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เพื่ออนาคตประเทศไทย หรือไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ หรือ TFF ว่าขณะนี้สหภาพการทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. ได้ยื่นฟ้องร้องเพื่อระงับโครงการกับศาลปกครองสูงสุด ซึ่งทุกอย่างจะให้เป็นไปตามขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครอง โดยยืนยันว่า ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผนกำหนดการเดิมที่คาดว่าจะเปิดขายกองทุนได้ก่อนการลงทุนของ กทพ.ที่คาดว่าจะลงทุนก่อสร้างทางด่วน 2 เส้นทางได้ก่อนเดือน กรกฎาคมนี้

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. บอกว่าในระหว่างรอศาลปกครองพิจารณา สคร.ได้ประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินการทำแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ หรือไฟลิ่ง เป็นไปอย่างเรียบร้อย