ขนส่งเชียงใหม่เผยภาพรวมระบบขนส่งสาธารณะในตัวเมืองเชียงใหม่ รถสองแถวแดง 2,465 คัน ตุ๊กๆ 1,100 คัน มอเตอร์ไซค์รับจ้าง 500 คัน แท็กซี่มิเตอร์ 450 คัน รถโดยสารเทศบาลนครเชียงใหม่ 18 คัน รถโดยสารเอกชน 17 คัน ที่มาภาพประกอบ: Wikimedia Commons

เว็บไซต์เดลินิวส์ รายงานเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2561 ว่านายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปัจจุบันเชียงใหม่มีระบบขนส่งสาธารณะขนส่งให้บริการหลากหลาย ประกอบด้วย รถสองแถวแดงให้บริการ 2,465 คัน วิ่งให้บริการไม่เกินวงแหวนรอบ 2 ค่าโดยสารไม่เกิน 30 บาทต่อคน แล้วแต่ระยะทางใกล้-ไกล ส่วนราคาเหมาไม่เกิน 200 บาท นอกจากนี้มีรถโดยสารของเทศบาลนครเชียงใหม่อีก 18 คัน ให้บริการ 3 สาย สายละ 6 คัน ได้แก่ 1.สายอาเขต-อนุสาวรีครูบาศรีวิชัย 2.สายอาเขต-สนามบิน และ 3.สายอาเขต-ศูนย์ราชการฯ ค่าโดยสารประชาชนทั่วไป 15 บาทตลอดสาย นักเรียน 10 บาทตลอดสาย

นายชาญชัย กล่าวต่อว่า ส่วนรถโดยสารปรับอากาศ (รถเมล์แอร์) ของบริษัท รีเจียนนอล ทรานซิสท์ คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (RTC) มีรถให้บริการ 17 คัน 3 เส้นทาง ได้แก่ สาย R3 (สนามบิน-นิมมาน-เมืองเก่า-ตลาดวโรรส-ไนท์บาซาร์) เป็นสายแรก สาย R1 (สวนสัตว์ ขนส่งช้างเผือก วโรรส อาเขต เซ็นทรัลเฟสฯ) เป็นสายที่สอง และสาย R2 (พรอมเมนาดา-มหิดล-หนองหอย-พระหฤทัย-ไนท์บาซาร์-คูเมือง-สนามบิน) เป็นสายที่ 3 ค่าโดยสาร 20 บาท ให้บริการ 06.00-23.00 น. มีแอร์เย็น ไวไฟฟรี และชำระค่าโดยสารด้วยบัตรแรบบิท ที่จะซื้อจากพนักงานขับรถได้ นอกจากนี้จะมีแอพพลิเคชั่น 'CM Transit by RTC' ให้บริการตรวจสอบตำแหน่งรถได้ เพื่อวางแผนในการเดินทาง ตอนนี้กระแสตอบรับจากผู้โดยสารชาวเชียงใหม่กับรถเมล์ของบริษัทดังกล่าวได้การตอบรับเป็นอย่างดี จนทำให้อนาคตบริษัทฯ มีแผนจะนำรถเมล์ไฟฟ้ามาให้บริการ 10 คัน บางส่วนจะทยอยนำมาวิ่งในเส้นทางสาย สาย R2 และบางส่วนไว้วิ่งในเส้นทางที่จะเปิดใหม่

นอกจากนี้จะมีรถโดยสารขนาดเล็ก (มินิบัส) เชื่อมสนามบิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปยังในเมืองและโรงแรมที่พักได้ ตามนโยบายของ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้บริการ 3 เส้นทาง คือ 1.สนามบิน-นิมมาน-คลองชลประทาน 2.สนามบิน-ไนท์บาซาร์ และ 3.สนามบิน-วงแหวนฯ-ศูนย์ราชการฯ-โรงแรม 700 ปี ค่าโดยสาร 60 บาท ส่วนอีก 2 สาย ค่าโดยสาร 40 บาท ขณะมีรถสองแถวแดงสำหรับเช่าเหมาประมาณ 30-40 คัน ที่ติดแอพฯ 'CM TAXI' และขณะนี้สองแถวแดง และ ตุ๊กๆ อยู่ระหว่างพัฒนาแอพฯ

นายชาญชัย กล่าวด้วยว่า ส่วนรถแท็กซี่มิเตอร์ปัจจุบันมี 450 คัน แบ่งเป็นของสหกรณ์นครลานนาเดินรถ 350 คัน และสหกรณ์แท็กซี่นครเวียงพิงค์ 50 คัน โดยผู้โดยสารเรียกใช้บริการผ่านแอพฯ แกร็บแท็กซี่ได้ รวมทั้งปัจจุบันออลไทยแท็กซี่ได้ยื่นเรื่องขอจดทะเบียนออลไทยแท็กซี่โอเคเชียงใหม่ 55 คัน จดทะเบียนแล้ว 5 คัน คาดว่าสิ้นปี 61 จะให้บริการครบทั้งหมด โดยให้บริการผ่านแอพฯ ออลไทยแท็กซี่ ค่าโดยสาร 2 กม. แรกเริ่มต้นที่ 40 บาท กม.ที่ 2-12 จำนวน 6 บาท หลังกม. 12 กม.ละ 12 บาท เป็นไปตามมาตรฐานการกำหนดค่าโดยสาร หากจอดที่สนามบินคิดค่าธรรมเนียม (เซอร์ชาร์จ) 50 บาท

ส่วนรถตุ๊กๆ ปัจจุบัน 1,100 กว่าคัน ค่าโดยสารตามตกลงราคา ทั้งนี้เชียงใหม่เป็นจังหวัดแรกในไทยที่มีตุ๊กๆ ไฟฟ้าให้บริการโควตา 450 คัน จดทะเบียนแล้ว 15 คัน ขณะที่รถจักรยานยนต์ (จยย.) รับจ้างสาธารณะมี 500 คันทั้งจังหวัด ส่วนใหญ่ให้บริการที่สถานีขนส่งอาเขต รถ จยย. รับจ้างสาธารณะจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมสำหรับชาวเชียงใหม่มากนัก เนื่องจากมีระบบขนส่งสาธารณะให้เลือกเดินทางหลากหลายช่องทาง อย่างไรก็ตามในอนาคตเชียงใหม่จะมีรถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะเป็นทางเลือกให้กับประชาชนในการเดินทาง ทั้งนี้ในปัจจุบันเชียงใหม่ยังต้องการและนิยมเดินทางด้วยรถเมล์อยู่ โดยเฉพาะรถเมล์ของบริษัทที่บริหารจัดการเดินรถในเรื่องความถี่ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสารได้ โดยที่ประชาชนไม่ต้องใช้เวลารอนานเหมือนแต่ก่อน